ส่งเสริมสุขภาพ ลดความเจ็บป่วย ขับเคลื่อนได้ด้วยสภาผู้นำชุมชน
รตี สงวนรัตน์*
*นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ กองสนับสนุนสุขภาพภาคประชาชน กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
เบญจมาศ เพ่งพิศ**
**นักวิชาการสาธารณสุขปฏิบัติการ รพ.สต.ตรวจ อ.ศรีณรงค์ จ.สุรินทร์
คงไม่ง่ายเลยหากจะคิดถึงไปถึงการดูแลประคับประคอง บิดาที่ป่วยติดเตียง มารดาที่ป่วยติดบ้าน เดินด้วยตัวเองไม่ได้ต้องใช้รถเข็น พี่สาวที่มีความพิการด้านร่างกายและสมองแต่กำเนิด รวมถึงความเป็นภรรยา และแม่ของลูกชาย 3 คน ความรับผิดชอบและบทบาทหน้าที่หลากหลายที่ไม่ได้ถือเป็นภาระ อีกทั้งไม่อาจลดทอนความงดงามในจิตใจ ความรักในการช่วยเหลือผู้อื่น ความเป็นจิตอาสา เสียสละเพื่อส่วนรวม ให้ลดน้อยลงไปได้เลย
ขับเคลื่อนงานส่งเสริมสุขภาพผ่าน “สภาผู้นำชุมชน”
นับตั้งแต่ปี 2531 อสม.บัวทอง ช่องงาม เริ่มบทบาทของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน “หนองมะแซว” หมู่บ้านขนาด 250 ครัวเรือน มีประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ มีความเชื่อ ทัศนคติ วัฒนธรรมประเพณี ตามชาติพันธุ์กวย สภาพสังคมเป็นสังคมเกษตรที่ยังคงรวมตัวเป็นกลุ่มก้อน อยู่กันแบบครอบครัว เอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่ แบ่งปัน พึ่งพาอาศัยกัน มีการรวมกลุ่มในชุมชนเพื่อขับเคลื่อนงานต่าง ๆ ประชาชนในหมู่บ้านและองค์กรในชุมชนมีความสามัคคีและให้ความร่วมมือในการดำเนินงานของชุมชน
ปัจจุบันนับเป็นเวลา 35 ปี อสม.บัวทอง ในวัย 54 ปี ยังคงมีความรักในการช่วยเหลือผู้อื่น ความเป็นจิตอาสา เสียสละเพื่อส่วนรวม จนได้รับความไว้วางใจให้รับหน้าที่เลขาสภาผู้นำชุมชน ซึ่งมีสมาชิกเป็นตัวแทนมาจากกลุ่มต่างๆ รวม 27 คน โดย สภาผู้นำชุมชนหนองมะแซว มีการกำหนดโครงสร้างการบริหารงานชัดเจน ทุกคนจะทราบบทบาทหน้าที่ของกันและกัน และปฏิบัติตามหน้าที่ ตามโครงสร้างที่กำหนดไว้ แต่ก็จะร่วมกันปฏิบัติงานอื่น ๆ ด้วยทุกครั้ง
ถึงแม้ไม่ใช่ภารกิจตามโครงสร้าง แต่เป็นภารกิจในเชิงประเด็น เช่น การสำรวจข้อมูล ร่วมกันจัดสถานที่ ทั้งนี้ มีวิธีการจัดแบ่งบทบาทหน้าที่ตามศักยภาพ ความรู้ความสามารถของแต่ละคน และตำแหน่งตามโครงสร้างเดิมที่มีในหมู่บ้าน เช่น ประธาน มาจาก ผู้ใหญ่บ้าน เลขานุการ มาจาก สมาชิก อบต. เป็นต้น นอกจากนี้ สภาผู้นำชุมชนยังยังเล็งเห็นความสำคัญของการทำงานเป็นทีมและการมีองค์ประกอบในการทำงานที่หลากหลาย เพื่อให้สามารถนำข้อมูลจากแต่ละกลุ่มมาแลกเปลี่ยนในสภาผู้นำชุมชนนำ มาซึ่งข้อมูลที่ครบถ้วนรอบด้าน สู่การแก้ปัญหาชุมชนได้อย่างตรงจุด
จากความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลของเครือข่าย เมื่อร่วมกันวิเคราะห์ข้อมูลในด้านสุขภาพ พบว่า ประชาชนบ้านหนองมะแซว มีพฤติกรรมสุขภาพที่ไม่เหมาะสม ขาดความตระหนัก มีพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่ไม่ถูกต้อง ยังคงมีการใช้สารเคมีในการเกษตรเพิ่มมากขึ้น ขาดความตระหนักในการดำเนินชีวิต เช่น ดื่มสุรา สูบบุหรี่ ขาดการจัดการขยะและด้านสภาพแวดล้อมที่ถูกต้อง จากปัญหาดังกล่าว ก่อเกิดแผนงาน/โครงการ ที่ชุมชนร่วมกำหนดกิจกรรมและผู้รับผิดชอบในการแก้ปัญหา ภายใต้กรอบแนวคิดในการทำงานตามหลักการจัดการหมู่บ้านจัดการสุขภาพ เน้นการคัดกรอง การเฝ้าระวังโรค การส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรคทุกกลุ่มวัย โดยสื่อสารแผนงาน/โครงการแก่ผู้เกี่ยวข้อง รับรู้เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ ด้วยการประชาสัมพันธ์ผ่านหอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน สื่อออนไลน์ และการประชุมประจำเดือนของหมู่บ้าน
ความต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญในการทำงาน อสม.บัวทอง ได้ติดตามการดำเนินงานจากโครงการ/กิจกรรม โดยมีการจัดแบ่งทีม อสม. ในการออกติดตามเชิงรุก และทำการจัดเก็บข้อมูลการติดตาม นอกจากนี้ยังจัดให้มีบริการสถานีสุขภาพเพื่อประชาชน สามารถเข้ารับบริการได้ทันที โดยมี อสม. เวรปฏิบัติการให้บริการทุกวัน ความตั้งใจไม่สูญเปล่า ผลการดำเนินงานจะเป็นไปตามเป้าหมายทุกโครงการ บ้านหนองมะแซวเป็นแหล่งศึกษาดูงานของหมู่บ้านใกล้เคียง ขยายไปตำบล อำเภอใกล้เคียงด้วย
นวัตกรรม “ผ้านุ่งผดุงสุขภาพบนถนนสายแดนซ์”
รอบหนองน้ำหนองมะแซว มีพื้นที่โล่ง อยู่ใจกลางหมู่บ้าน ใกล้ชุมชน ใกล้หอกระจายข่าว ใกล้วัด ถนนแห่งนี้จึงเป็นสถานที่ ที่คนในชุมชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน เป็นถนนสายวัฒนธรรมใช้ในการฟ้อนรำช่วงงานบุญประเพณี จะมีการตกแต่งเพิ่มความสวยงาม โดยใช้ ผ้านุ่ง ผ้าพื้นเมือง นำมาประดับตกแต่งเป็นธง เป็นลานกิจกรรมใช้ในการออกกำลังกายในช่วงเย็นในกลุ่มแอโรบิก ซึ่ง อสม.บัวทอง และทีมงานสลับสับเปลี่ยนมาเป็นเป็นผู้นำ เต้นอย่างสม่ำเสมอ ด้วยกิจกรรมที่มักเกิดบนถนนสายนี้เป็นการฟ้อน เต้น ชาวบ้านจึงเรียกถนนสายนี้ว่า “ถนนสายแดนซ์”
จากการมาเป็นผู้นำ เต้นแอโรบิกประกอบกับความตระหนักในปัญหาของชุมชนบ้านหนองมะแซว ที่มีผู้ป่วยด้วยโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงเพิ่มขึ้นทุกปี โดยสาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจาก การรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสมกับโรค ขาดการออกกำลังกาย และมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม อสม.บัวทอง และทีม อสม. ร่วมกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ตรวจ อำเภอศรีณรงค์ จังหวัดสุรินทร์ จึงมีแนวคิดจัดทำนวัตกรรมที่ส่งเสริมพฤติกรรมทางสุขภาพให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงป้องกันภาวะแทรกซ้อน โดยการออกกำลังกายด้วยผ้านุ่งขึ้น เนื่องจากประชากรในท้องที่ใช้ผ้านุ่งเป็นเครื่องนุ่งห่มจึงเป็นอุปกรณ์ประกอบการออกกำลังกายที่สามารถหาได้ง่าย เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการออกกำลังกายสำหรับผู้ป่วย
การใช้นวัตกรรมเริ่มด้วยการ ประเมินระดับน้ำตาลในเลือดและระดับความดันโลหิตให้แก่ผู้ป่วยและประเมินอาการแทรกซ้อนของโรคเบื้องต้นโดย อสม. แกนนำสุขภาพและเจ้าหน้าที่
สาธารณสุข ตามด้วยการให้ความรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมทางสุขภาพที่เหมาะสมแก่ผู้ป่วยกลุ่มเป้าหมาย
สำหรับท่าทางที่ใช้ในการออกกำลังกาย เนื่องจาก อสม.บัวทอง และทีมได้ผ่านการอบรมเป็นผู้นำเต้นแอโรบิก และอบรมด้านการนวดไทยเพื่อสุขภาพแผนไทยคชลักษณ์ จึงประยุกต์ท่าทางให้เหมาะสมกับกลุ่มผู้ป่วยที่ไม่สามารถออกกำลังกายหนักได้ เปิดโอกาสให้กลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้สูงอายุ ผู้ที่น้ำหนักตัวมากได้เข้าถึงการออกกำลังกายมากขึ้น และเป็นทางเลือกในการออกกำลังกายให้กับประชาชนอีกด้วย ทั้งนี้ ผู้ป่วยและ อสม. และผู้สนใจ จะร่วมกันออกกำลังกายโดยใช้ผ้านุ่งโดยมีแกนนำจัดทำกิจกรรม อย่างน้อย 30 นาที 3 ครั้ง/สัปดาห์
ซึ่งเป็นที่น่ายินดีเมื่อผลจากการดำเนินงาน พบว่า ผู้ป่วยโรคเบาหวานสามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้มีค่าน้ำตาลสะสมใน 3 เดือนลดลง ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงสามารถควบคุมระดับความดันโลหิตได้ ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีความดันโลหิตสูงสามารถควบคุมตามเกณฑ์ นอกจากนี้ยังพบว่า พบว่า ผู้เข้าร่วมโครงการมีความพึงพอใจระดับมากในทุกด้าน
รางวัลแห่งความภาคภูมิใจ
จากความทุ่มเทแรงกายแรงใจ รางวัลที่ได้เป็นความภูมิใจที่ยิ่งใหญ่ คือการได้รับการยอมรับจากภาคีเครือข่าย อาทิ สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอศรีณรงค์ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอศรีณรงค์ องค์การบริหารส่วนตำบลตรวจ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลตรวจ โดยให้การสนับสนุนกิจกรรมพัฒนาชุมชน เนื่องจากภาคีเครือข่ายเห็นว่า บ้านหนองมะแซวมีกลไกขับเคลื่อนงานที่เข้มแข็ง สามารถขับเคลื่อนงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โครงการมีโอกาสสำเร็จ มีความยั่งยืน และสามารถเป็นต้นแบบในการพัฒนาให้กับหมู่บ้านอื่นได้
ด้วยความสำเร็จที่กล่าวมาข้างต้น ส่งผลให้บ้านหนองมะแซวได้รับรางวัลหมู่บ้านต้นแบบการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ระดับเขตสุขภาพที่ 9 ประจำปีงบประมาณ 2565 โดย อสม.บัวทอง เป็นตัวแทนในการนำเสนอผลงาน
เมื่อมีผู้เห็นด้วย ย่อมมีผู้เห็นต่าง
ในการทำงานของ อสม.บัวทอง ก็เช่นเดี๋ยวกัน ยังมีบางครอบครัวที่อาจจะไม่เข้าร่วมกิจกรรมที่จัดขึ้น แม้จะเป็นส่วนที่น้อยมาก แต่อสม.บัวทอง ก็ไม่คิดที่จะทิ้งใครไว้ข้างหลัง กลไกของสภาผู้นำชุมชนยังถูกนำมาใช้ในการแก้ปัญหา โดยหากพบว่ามี ครัวเรือนในส่วนที่ตนรับผิดชอบไม่ให้ความร่วมมือในกิจกรรมของชุมชน สมาชิกสภาชุมชนที่รับผิดชอบในพื้นที่นั้น จะนำเข้าที่ประชุมสภาผู้นำชุมชน เพื่อหาทางออกร่วมกัน บนพื้นฐานการสร้างความรู้ความเข้าใจ แสดงให้เห็นข้อดี ให้ครัวเรือนนั้นตระหนักถึงความสำคัญ และเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ โดยไม่ใช้วิธีการบังคับ
ปัจจัยแห่งความสำเร็จ
อสม.บัวทอง กล่าวว่า “ความสำเร็จไม่อาจเกิดขึ้นจากคนคนเดียว” การทำงานเป็นทีมผ่านสภาผู้นำชุมชน เป็นต้นแบบในการขับเคลื่อนเชิงประเด็น ทั้งในด้านการส่งเสริมสุขภาพในชุมชนโดยการใช้หลัก 3 อ 2 ส การจัดการขยะของครัวเรือน การลด ละ เลิกเหล้า การปลูกและบริโภคผัก การมีกิจกรรมทางกาย ทำให้มีต้นแบบ ในการปฏิบัติและสามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวทางในการดำเนินงานทั้งในสภาผู้นำชุมชนและกับกลุ่มเป้าหมาย
การจัดกระบวนการเรียนรู้ เช่น การจัดอบรม การพากลุ่มเป้าหมายไปศึกษาดูงาน การประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องทั้งในการประชุม การสื่อสารทางหอกระจายข่าว การออกติดตามและเสริมพลังให้กับกลุ่มเป้าหมาย ทั้งนี้ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายเกิดการตื่นตัวและพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
การจัดการข้อมูลและนำข้อมูลมาสะท้อนผลในเวทีสภาผู้นำชุมชน ร่วมกับทีมสนับสนุนวิชาการ ทำให้สภาผู้นำชุมชนทราบถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการนำมาสะท้อนในเวทีการประชุมสภาผู้นำชุมชนในทุกเดือนทำให้สภาฯ สามารถปรับแผนการดำเนินงานให้เหมาะสมกับสถานการณ์ อาทิ สภาผู้นำชุมชนทราบถึงครัวเรือนที่ไม่สามารถปฏิบัติหรือจัดการขยะได้ก็จะไปเยี่ยมครัวเรือนเพื่อค้นหาปัญหาและให้การสนับสนุนได้อย่างถูกต้อง ซึ่งต้องดำเนินการอย่างสม่ำเสมอครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายและภาคีดำเนินงานและข้อมูลต้องมีความพร้อมในการสะท้อนผล
มีแกนนำ และ อสม. ที่มีความรู้ ความเข้าใจในแนวคิดโครงการการดำเนินงานส่งเสริมสุขภาพในชุมชน เป็นต้นแบบที่ดี มีภาวะผู้นำสูง สภาผู้นำชุมชนและประชาชนจึงเกิดความเชื่อมั่นและศรัทธา ทำให้สามารถสร้างการมีส่วนร่วมจากประชาชนเพื่อการขับเคลื่อนงานต่างๆ ในหมู่บ้านได้เป็นอย่างดี และส่งผลต่อความสำเร็จของงาน
ยังไม่หมดไฟ
แม้จะประสบความสำเร็จในหลายเรื่อง แต่อสม.บัวทอง ยังคงยืนหยัดร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนางานด้านระบบสุขภาพและส่งเสริมการดูแลสุขภาพในชุมชนให้ยั่งยืน เพื่อลดอัตรา กลุ่มเสี่ยงผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อในชุมชนและกลุ่มเสี่ยงด้านสุขภาพด้านอื่นๆ สู่เป้าหมายประชาชนในชุมชนมีสุขภาพดีและใช้ชีวิตอย่างถูกต้องและมีความสุข ดังคติในการทำงานที่ยึดมั่นตลอดมา “ความสุขที่สุดคือการไม่เจ็บไม่ป่วย คือความร่ำรวยด้านสุขภาพ”