ชื่อเจ้าของผลงาน : นางลัดดาวรรณ รามางกูร |
ประเภทนวัตกรรม : นวัตกรรมกระบวนการ (Process innovation) |
สาขาที่ประกวด : ทันตสุขภาพ |
จังหวัด : นครพนม |
อสม.ดีเด่นระดับ ชาติ |
ที่มาและความสำคัญของการสร้างนวัตกรรม
จากเดิมบ้านหนองเบ็ญหมู่ที่ 9 มีศูนย์การเรียนรู้ด้านทันตสุขภาพ เพื่อให้ความรู้เรื่องทันตสุขภาพให้กับประชาชนในพื้นที่ แต่พบว่ามีผู้มาเข้าร่วมกิจกรรมในศูนย์การเรียนรู้ค่อนข้างน้อย โดยเฉพาะกลุ่มเด็ก เพราะเห็นว่ากิจกรรมขาดความน่าสนใจ ดังนั้น ชมรม อสม. ฟันดีบ้านหนองเบ็ญ จึงได้ปรึกษาหารือในการประชุมประจำเดือน แลกเปลี่ยนความคิดสร้างสรรค์ จนได้เปลี่ยน“ศูนย์การเรียนรู้” ให้เป็น “พิพิธภัณฑ์ฟัน (FUN) มีชีวิต” ที่จะเป็นแหล่ง
ในการให้ความรู้ที่เป็นประโยชน์ด้านการศึกษา การเผยแพร่ผลงานด้านวิชาการและนวัตกรรมจากภูมิปัญญาท้องถิ่น รวมถึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวประจำอำเภอ หรือเรียกว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ ประจำตำบลให้คนในชุมชนต่างตำบล
และต่างอำเภอได้มาศึกษาเกี่ยวกับการทำนวัตกรรมต่างๆ เพื่อได้นำไปเผยแพร่ให้คนในชุมชนอื่นได้ทราบ และนำไปใช้ไปปฏิบัติ ซึ่งมีระบบทันตกรรมทางไกลที่สามารถให้คำปรึกษาและสร้างการรับรู้ ด้านสุขภาพช่องปาก แก่ประชาชนได้
ช่วยในการเผยแพร่ความรู้ และกระตุ้นความสนใจในทุกกลุ่มวัย เพื่อสร้างการตระหนักรู้เรื่องการดูแลสุขภาพช่องปาก และลดโรคทางทันตสุขภาพ ทั้งการเรียนรู้โครงสร้างฟันและการดูแลรักษา การทดลองแปรงฟันอย่างถูกวิธี การให้ความรู้เรื่องอาหาร ที่ดีต่อสุขภาพช่องปาก และมีกิจกรรมสร้างแรงจูงใจ โดยมีเนื้อหานวัตกรรมต่างๆ ของ อสม. ลัดดาวรรณ รามางกูร นอกจากนี้ ยังนำเอาแนวคิดพิพิธภัณฑ์มีชีวิตมาใช้ในการดำเนินงาน โดยเน้นออกแบบกิจกรรมให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมเกิดการเรียนรู้แบบ Active learning ซึ่งจะได้ลงมือปฏิบัติ และมีปฏิสัมพันธ์กับเนื้อหา ผู้เข้าร่วมกิจกรรมอื่น หรือวิทยากร แทนที่จะเป็นการรับฟังหรือจดจำเนื้อหาเพียงฝ่ายเดียว ทำให้เกิดความสนุก กระตุ้นการมาร่วมกิจกรรมของเด็ก
วัตถุประสงค์
1. เพื่อพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ ให้เป็นแหล่งความรู้ที่ผู้เข้าร่วมมีส่วนร่วมผ่านการทดลองและลงมือปฏิบัติจริง
2. เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้และนวัตกรรมทันตสุขภาพ ของ อสม.
ขั้นตอนการดำเนินงาน
1. จัดหาสถานที่ที่เหมาะสมในการจัดแสดงพิพิธภัณฑ์ฯและจัดเตรียมวิทยากรในแต่ละฐานการเรียนรู้
2. การจัดกิจกรรมฐานการเรียนรู้ใน“พิพิธภัณฑ์ฟัน (FUN) มีชีวิต” ได้นำเอาองค์ความรู้ และนวัตกรรมต่างๆ ของ อสม.
มาบูรณาการร่วมในฐานกิจกรรม ซึ่งได้จัดกิจกรรมทั้งหมด 4 ฐานกิจกรรม โดยกำหนดให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมหรือฐาน
การเรียนรู้ผ่านการเล่นทอยลูกเต๋าและเกมส์บันไดงู ดังนี้
2.1 ฐานกิจกรรม “ย้อมสีฟัน” เป็นกิจกรรมที่มุ่งเน้นให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทราบถึงอวัยวะต่างๆ ในช่องปาก
ระยะของโรคฟันผุ และโรคเหงือกอักเสบ
2.2 ฐานกิจกรรม “แปรงฟัน” เป็นกิจกรรมที่มุ่งเน้นให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมสามารถแปรงฟันได้ถูกต้องและถูกวิธี ตามสูตร 2-2-2 โดยมีการนำเอานวัตกรรมเดิม ได้แก่ “อัญชันฝรั่งข่อย” มาช่วยย้อมสีฟันเพื่อสังเกตว่าฟันส่วนใดยังมี
แผ่นคราบจุลินทรีย์ในช่องปากของตนเอง วางแผนแก้ไขการแปรงฟัน นอกจากนี้ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อเม็ดสีย้อมฟัน ใช้นวัตกรรม “เครื่องจับเวลาแปรงฟันหนูน้อย” และเพลง “มาแปรงฟันกันเถอะ” เพื่อช่วยให้แปรงฟันนานอย่างน้อย 2 นาที
2.3 ฐานกิจกรรม “ขนม 3 สี” เป็นกิจกรรมที่มุ่งเน้นให้ผู้เข้าร่วมมีความรู้ สามารถแบ่งประเภทของขนมตามสีได้
ได้แก่ สีแดง สีเหลือง สีเขียว ตามปริมาณน้ำตาลในขนม
2.4 ฐานกิจกรรม “ทันตแพทย์น้อย” กิจกรรมที่มุงเน้นให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมสามารถตรวจสุขภาพช่องปากตนเองเบื้องต้นได้ ส่งเสริมความใส่ใจในสุขภาพฟัน โดยได้นำเอาเทคโนโลยีกล้องส่องช่องปาก มาใช้เป็นอุปกรณ์ในการตรวจ นอกจากนี้ผู้ตรวจฟันยังจะต้องอธิบายการดูแลฟัน เช่น การแปรงฟันให้ถูกวิธี หรือผลเสียของการกินขนมหวาน และสามารถแลกเปลี่ยนถามคำถาม ตอบคำถามเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพช่องปากได้
ผลการดำเนินงาน/ประโยชน์ที่ได้รับ
หลังปรับปรุงเป็น “พิพิธภัณฑ์ฟัน (FUN) มีชีวิต” มีผลการดำเนินงานดังนี้
1. ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 70 คน
2. ความพึงพอใจและความรู้ความเข้าใจที่ได้รับจากกิจกรรม

3. ความรู้ก่อนและหลังเข้าร่วมกิจกรรม
กลุ่มวัย | จำนวนผู้เข้า ร่วมกิจกรรม (คน) | Pre-test | Post-test | ||
จำนวนผู้ที่ตอบถูกทุกข้อ (คน) | ร้อยละ | จำนวนผู้ที่ตอบถูกทุกข้อ (คน) | ร้อยละ | ||
อายุ 3 – 5 ปี | 20 | 9 | 45.00 | 17 | 85.00 |
อายุ 6 – 12 ปี | 25 | 8 | 32.00 | 25 | 100.00 |
อายุ 15 ปีขึ้นไป | 25 | 12 | 48.00 | 25 | 100.00 |
– กลุ่มเด็กให้ความสนใจในการเข้าร่วมกิจกรรมด้านทันตสุขภาพมากขึ้น
– ผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีส่วนร่วมกับกิจกรรมในแต่ละฐานได้เป็นอย่างดี
– ผู้เข้าร่วมกิจกรรมพึงพอใจกับการเข้าร่วมกิจกรรมในพิพิธภัณฑ์ฟัน (FUN) มีชีวิต
ปัจจัยความสำเร็จ
– การทำงานเป็นทีมของ อสม.
– การทำงานเชิงรุก ติดตามงานอย่างต่อเนื่อง
– ประชาชนในชุมชนให้ความร่วมมือ
– หมู่บ้านได้รับการสนับสนุนบุคลากรและงบประมาณผู้นำชุมชน, อบต., รพ.สต. และหน่วยงานอื่น ๆ อย่างเพียงพอ
โอกาสในการพัฒนา
- มีการพัฒนาการใช้หลักการทำงาน 4 ช : ชัดเจน เชื่อมั่น เชื่อมประสาน ชมรมอสม. ด้านทันตสุขภาพ ให้เป็นต้นแบบขยายภาคีเครือข่าย และแนะนำการทำนวัตกรรมในเครือข่ายชมรมฟันดีให้ทั่วจังหวัดนครพนม
- การพัฒนาให้เป็นศูนย์แลกเปลี่ยนเรียนรู้จากพื้นที่ต่างๆอย่างต่อเนื่อง
ภาคผนวก
