กองสนับสนุนสุขภาพภาคประชาชน กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
อสม.กรณัท สายแวว ผู้้หญิงคนเดียวของบ้านสายแวว ที่่แวดล้อมด้วยสามีและบุตรชาย
ทุกคนในครอบครัวคอยสนับสนุน ช่วยเหลือและส่งเสริมการดำเนินงานของ อสม.กรณัท
ด้วยบุคลิกส่วนตัวยิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมใจที่มีจิตอาสา ทัศนคติที่ดีต่อการเป็น อสม. ทุกครั้ง
ที่่มีการจัดกิจกรรมในชุมชน ก็จะมี อสม.คนนี้อยู่ร่วมกิจกรรมในงานตลอด จนได้รับการคัดเลือก
เป็นเลขาณุุการชมรม อสม.อำเภอสุคิริน ตั้งแต่ ปี2548 จนถึงปัจจุบัน และเป็นประธานชมรม
อสม.ตำบลสุคิรินอีกด้วย
อสม.กรณัท สายแวว หรือ คนในตำบลสุคิริน มักจะเรียกว่า น้องเปิ้ล หรือ “พี่เปิ้ล” พี่เปิ้ลๆ
มาแล้ว แบบนี้ตลอด
ภายใต้ชื่อหมู่บ้านสันติสุข กับเหตุการณ์ความไม่สงบ
หมู่บ้านสันติเป็นหมู่บ้านเล็กๆ สภาพพื้นที่ทั่วไปเป็นภูเขาและป่ายาง ภูมิอากาศดี ส่วนใหญ่
ฝนตกชุ่มชื้นตลอดปี ตั้งอยู่หมู่ที่ 7 ตำบลสุคิริน อำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส คนในชุมชน
บ้านสันติทำอาชีพเกษตรกรรม (กรีดยาง สวนผลไม้ และปลูกผัก) ในอดีตที่ผ่านมาเคยมีเหตุการณ์
ความไม่สงบในพื้นที่แห่งนี้มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ ปี 2547 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งผลกระทบที่
มากที่สุด เป็นเรื่อง “จิตใจ” ของผู้ที่ประสบเหตุการณ์ ต่อมาเมื่อปี 2563 เกิดวิกฤตการระบาด
ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ส่งผลกระทบต่อคนในชุมชนเป็นอย่างมาก
ทั้งเกิดความเจ็บป่วยทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ ทำให้ความเครียดสะสมเพิ่มขึ้นเป็น
2 เท่า และการดำเนินชีวิตประจำวันเป็นไปด้วยความยากลำบาก
อสม.กรณัท ใช้ความเป็น อสม.ที่มีจิตอาสา และความสามารถส่วนบุคคลในการเจรจา
สื่อสารจากการทำงาน สามารถของบประมาณสนับสนุนจากเครือข่ายต่างๆ ในการดำเนิน
โครงการเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่พี่น้องคนในชุมชนบ้านสันติ ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
ด้วยความที่่ อสม.กรณัท เป็นผู้มีความมุ่งมั่น ตั้งใจและทุ่มเทในการปฏิบัติหน้าที่ อสม.
ที่คนในชุมชนไว้้วางใจ และสามารถประสานงาน ร่วมทำงานกับเจ้าหน้าที่และเครือข่ายได้
เป็นอย่างดี โดยในการดำเนินงาน จะเน้นบทบาทการเป็นหมอคนที่ 1 ในด้านส่งเสริมสุขภาพ
ของคนในชุมชน แบบองค์รวมทั้งกาย ใจ สังคม จิตวิญญาณ ด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์
นอกจากนี้ยังใช้หลักส่งเสริมสุขภาพดูแลตามกลุ่มวัย ตั้งแต่หญิงตั้งครรภ์ ทารกแรกเกิด เด็ก
วัยเรียน วัยรุ่น วัยทำงาน วัยชราและผู้พิการ เพื่อให้คนในชุมชนมีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์
แข็งแรง เพื่อป้องกันโรค หรือหากมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว ก็จะเน้นปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
การรับประทานอาหารเพื่ออยู่กับโรค ส่งเสริมการรับประทานยารักษาโรคให้ต่อเนื่อง ส่งเสริม
สุขภาพจิตที่ดี อยู่ในสังคมบ้านสันติอย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดี
“นวัตกรรม 4 ร. บ้านสันติ พิชิตปัญหา”
อสม. ร่วมกับกับทีมเครือข่าย อสม. และคนในชุมชน เรียนรู้และพร้อมกับพัฒนานวัตกรรม
กระบวนการชุมชน จนได้ นวัตกรรม 5 ร. โดยเริ่มต้นจาก ร.1 ร่วมกันค้นหาปัญหาของชุมชน
และวินิจฉัยชุมชน โดยการวิเคราะห์ปัญหาและสาเหตุของปัญหาโดยการทำเวทีประชาคม
หมู่บ้านเพื่อให้ได้ถึงปัญหาของชุมชนที่แท้จริง เพื่อร่วมกันหาแนวทางแก้ไขปัญหาโดยใช้
ต้นทุนของทรัพยากร องค์ความรู้ และต้นทุนที่มีอยู่ในชุมชน แล้วจึงต่อด้วย ร.2 ร่วมจัดทำ
แผนงานโครงการ เพื่อขอสนับสนุนงบประมาณในการจัดกิจกรรมจากกองทุนต่างๆ เช่น สปสช.
อบต.สุคิริน งบเทศบาลตำบลสุคิริน งบ สสส.สำนักที่6 และงบจาก UNDP และต่อเนื่องด้วย ร.3
ร่วมดำเนินงานจัดกิจกรรมตามแผนงาน/โครงการ และกิจกรรมอื่นๆ โดยเริ่มจากโครงสร้าง
ชุมชนมีคณะทำงานที่เป็นผู้นำชุมชน อสม.และวิทยากรจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ความ
รู้แก่คนในชุมชนลงมือปฏิบัติกิจกรรม เกิดข้อตกลงที่ต้องปฏิบัติร่วมกันมีเครือข่ายการทำงาน
ร่วมกันทำให้เกิดนวัตกรรมขึ้นมาใช้ร่วมกัน และสุดท้าย ร.4 ร่วมกับผู้นำชุมชน เจ้าหน้าที่
ที่เกี่ยวข้อง ติดตามประเมินผลเพื่อพัฒนาสู่ความยั่งยืน และชุมชนยังทำเนื่องถึงแม้ว่าโครงการ
จะสิ้นสุดลง
“วิกฤติโควิด 19 กับ 5 ฐาน สร้างรายได้ มั่นคงทางอาหาร”
อสม.กรณัท และเครือข่ายในชุมชนบ้านสันติ จะร่วมกับหน่วยงาน เครือข่ายในอำเภอสุคิริน
จึงมองเห็นปัญหาชุมชน ใกล้เคียงกับคุณภาพชีวิต ปัญหาที่ 1 ด้านเศรษฐกิจ ชุมชนบ้านสันติ
แก้ไขปัญหาพร้อมพัฒนาให้เกิดฐานการเรียนรู้ในชุมชน 5 ฐาน ให้คนในชุมชนศึกษาเรียนรู้
เพื่อนำไปใช้ในครัวเรือนพึ่งตนเองได้ 1.)ฐานการเกษตรแบบผสมผสานปลูกพืชผักปลอด
สารพิษ 2.)ฐานการเพาะเลี้ยงชันโรงเพื่อการอนุรักษ์ 3.)ฐานการการปลูกกาแฟอาราบิกา
ไม้เศรษฐกิจ ยางพารา 4.)ฐานการทำปศุสัตว์แบบผสมผสาน 5.)ฐานการปลูกพืชยืนต้นแบบ
ผสมผสาน อสม.กรณัท ยังบอกอีกว่า “หากใครผ่านมาที่สุคิริน อย่าลืมแวะมาชมความพอเพียง
ที่บ้านสันติ” ในการส่งเสริมรายได้ มั่นคงด้านอาหารภายใต้เหตุการณ์ความไม่สงบ และวิกฤต
ของโรคโควิด-19” อสม.กรณัท และเครือข่ายชุมชนยังร่วมแก้ปัญหา เรื่องขาดรายได้ หรือ
วัตถุดิบประกอบอาหารในชุมชนมีน้อย จึงร่วมกับ สสส.สำนัก 6 และ อบต.สุคิริน จัดทำโครงการ
ปลูกผักปลอดสารเคมีในครัวเรือน การมีอาหารที่ปลอดภัยไว้บริโภคในครัวเรือน ทำให้เกิดความ
มั่นคงทางอาหารในระดับชุมชน มีอาหารที่เพียงพอปลอดภัยไม่มีสารเคมี ไม่ต้องซื้ออาหาร
จากแหล่งที่ไม่ทราบที่มาของอาหาร ทำให้มีอาหารกินครบ 5 หมู่
ถูกหลักอนามัย เพราะเป็นอาหารที่ปลูกเอง และยังเป็นการลดรายจ่ายของครัวเรือนให้มีเงินออมเพิ่มขึ้นโดยมี
หลักคิด คือ “มีผักปลอดสารเคมีบริโภคในครัวเรือน” ผลลัพธ์ทุกเครือเรือนปลูกผักไร้สารเคมี
ร้อยละ 100 แหล่งเรียนรู้ที่สำคัญ เพื่อให้เป็นตัวอย่างให้คนในชุมชนปฏิบัติตาม เพื่อความมั่นคง
ทางด้านอาหาร และเศรษฐกิจพอเพียง
“ธนาคารขยะโดยชุมชนบ้านสันติ” ปัญหาที่ 2. ด้านสิ่งแวดล้อม (การจัดการขยะ) ของ
ชุมชนบ้านสันติ อสม.กรณัท และทีมเครือข่ายชุมชน ได้ของบประมาณสนับสนุนจาก สสส. เพื่อ
จัดทำโครงการการจัดการขยะในชุมชน ทำให้เกิดธนาคารขยะในชุมชน เป็นการจัดการขยะ
ตั้งแต่ต้นทาง ธนาคารขยะมี อสม. เป็นคณะทำงานและมีผู้ใหญ่บ้านเป็นที่ปรึกษากิจกรรมของ
ธนาคารขยะ มีกิจกรรมการฝากขยะทุกวันที่่มีการประชุมประจำเดือนของหมู่บ้าน เป็นการฝึก
วินัยคนในชุมชนคัดแยกขยะต้นทาง และยังเกิดรายได้ให้ครัวเรือน แม้จะเป็นรายได้เล็กน้อย
แต่สิ่งที่ได้โดยตรง ทำให้แหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายในและนอกบ้านลดลงอย่างเห็นได้ชัด
เป็นหมู่บ้านที่มีภูมิทัศน์ที่สะอาดหน้าบ้านน่ามอง มีการทำกิจกรรม Big cleaning ทุกวันที่ 10
ของเดือน ได้มีการจัดการกับขยะอินทรีย์และได้ผลิตภัณฑ์ในทางการเกษตรใช้ในครัวเรือน
(น้ำหมัก)
“เยี่ยมบ่อย ได้ใจ สู้ภัยโควิด-19”
ปัญหาด้านสุขภาพ อสม.กรณัท ยังได้ดำเนินงานทั้งในรูปแบบโครงการ และกิจกรรมประจำ
เช่น การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง ในกลุ่มประชาชน
และในกลุ่มพระสงฆ์ กิจกรรมเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคโควิด 19 ติดตามการฉีดวัคซีน
ในเด็ก 0-5 ปี และทำโครงการเฝ้าระวัง ควบคุม ป้องกันโรคโควิด 19 ในชุมชนบ้านสันติโดยการ
เคาะประตูบ้าน ติดตาม เฝ้าระวัง พร้อมบอกต่อเรื่องวัคซีนให้แก่คนในชุมชน (ความครอบคลุม
วัคซีนโควิด) พร้อมส่งเสริม ประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจให้กับคนในชุมชน จากการ
ดำเนินงานด้านสุขภาพ ปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงาน ความต่อเนื่องในการเข้าร่วมโครงการ
ด้านสุขภาพ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ หากไม่สามารถเข้าร่วมตั้งแต่ 3 วันขึ้นไป ทาง อสม. โดยการนำ
ของ พี่เปิ้ล จะไปเยี่ยมที่บ้านพร้อมด้วยเครื่องน้ำหนัก วัดความดัน และสอบถามปัญหาอุปสรรค
หรือสาเหตุที่ไม่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ เพื่อติดตามและแนะนำ ให้กำลังใจ ทำให้ได้รับ
การตอบรับชื่นชมจากกลุ่มดังกล่าวเป็นอย่างดี
ทิ้งท้ายไว้น่อย
การดูแลเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ พื้นที่ชายแดนภาคใต้นั้น อสม. กรณัท จะเน้นลงพื้นที่ร่วมกับทีมหน่วยงานต่างๆ ให้การปฐมพยาบาล ประสานส่งต่อ ให้แก่ โรงพยาบาลสุคิริน เพื่อช่วยเหลือ สนับสนุนกายอุปกรณ์ให้แก่ผู้พิการหรือผู้ได้รับผลกระทบ ดูแลประสานออกบัตรพิการ และติดตามส่งให้แก่ผู้พิการ ดูแลด้านจิตใจ ประเมินความเครียด (ST5) และภาวะซึมเศร้า (2Q 9Q ) ติดตามเยี่ยมบ้านสม่ำเสมอ ประสานหาทุนในการประกอบ อาชีพจากศูนย์วิชาการจากเหตุการณ์ความไม่สงบจังหวัดชายแดนใต้ (ศวชต.) และยังเสริมด้วย มีกิจกรรมการฝากเงินออมทรัพย์ของชุมชน ส่งเสริมทำบัญชีครัวเรือนเพื่อรายได้เพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลดลง มีเงินออมเพิ่มขึ้น หนี้สินลดลง และในที่สุดจะสามารถแก้ไขปัญหา หนี้สินได้อย่างยั่งยืน พอประมาณกับรายได้ตนเอง และมีการออมในระบบของออมทรัพย์ บ้านสันติทุกวันที่ 5 ของเดือน”