นวัตกรรมสุขภาพภาคประชาชน ประจำปี พ.ศ. 2567
นวัตกรรม สาขาการส่งเสริมสุขภาพ
- ชื่อนวัตกรรม: เชือกเปียตบชวา คลายปวด เมื่อย ตึง
- ประเภทนวัตกรรม (จำแนกตามเป้าหมาย): ☑ นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ (product innovation)
- สาขาที่ประกวด: สาขาการส่งเสริมสุขภาพ
- จังหวัด: ชัยนาท
- อสม.ดีเด่นระดับ:ภาค
- ข้อมูลส่วนตัวชื่อ: รพีพรรณ ธัญญเจริญ
- ที่อยู่: 113 หมู่ที่ 7 ตำบลบางขุด อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท
- อาชีพ: จักสาน
- ระยะเวลาเป็นอสม.: ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 จนถึงปัจจุบัน รวมระยะเวลา 20 ปี
- คติในการทำงาน: จิตอาสา พัฒนาชุมชน ทำคนให้มีอาชีพ นำทีมออกกำลังกาย
- ที่มาและความสำคัญของการสร้างนวัตกรรม ในปี 2563 กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรจักสานผักตบชวา ได้จัดทำโครงการจัดการความเสี่ยงด้านสุขภาพและส่งเสริมสุขภาพในกลุ่มแรงงานนอกระบบอาชีพจักสานผักตบชวา และอาชีพอื่นๆ บ้านบางกระบวย ตำบลบางขุด โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เขต 3 จังหวัดนครสวรรค์ โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ อบรมให้ความรู้สร้างแกนนำสุขภาพ คัดกรองความเสี่ยงด้านสุขภาพ และสร้างเสริมสุขภาพในกลุ่มแรงงานนอกระบบ กิจกรรมการดำเนินโครงการ นอกจากมีการคัดกรองความเสี่ยงแล้ว อสม.รพีพรรณ ยังตั้งกลุ่มแกนนำสาธิตท่ากายบริหาร เพื่อลดอาการปวดจากการทำงานของกลุ่มจักสานขึ้น เพื่อให้สมาชิกได้นำท่ากายบริหารไปใช้เพื่อลดปัญหาสุขภาพจากการทำงาน ได้แก่ ออกกำลังกายหลัง ท่าบริหารด้วยเก้าอี้ ท่าบริหารด้วยผ้าขาวม้า จากโครงการดังกล่าวกลุ่มได้นำไปนำเสนอในเวทีถอดบทเรียนการดำเนินงานและพัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบายโครงการบูรณาการขับเคลื่อนงานส่งเสริมสุขภาวะแรงงานนอกระบบฯ โดยกลไกกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ (สปสช.) เขต 3 จังหวัดนครสวรรค์ปี 2566 กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรจักสานผักตบชวามีจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้น ซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มผู้สูงอายุ กระจายอยู่ในหมู่ที่ 7 ตำบลบางขุด และพื้นที่ใกล้เคียง จากการเก็บข้อมูลพบว่าสมาชิกมีปัญหาสุขภาพ เช่น ปวดหลัง ปวดมือ ปวดบ่า อสม.รพีพรรณ จึงคิดหาแนวทางในการส่งเสริมสุขภาพของสมาชิกกลุ่มโดยนำแนวคิดกิจกรรมโครงการจัดการความเสี่ยงด้านสุขภาพ และส่งเสริมสุขภาพในกลุ่มแรงงานนอกระบบที่เคยดำเนินการมาแล้วนั้นมาทำอีกครั้ง โดยเพิ่มเติมการใช้วัสดุจากการจักสานผักตบชวามาถักเป็นเปียแทนผ้าขาวม้าที่เคยใช้มาประกอบท่ากายบริหารเพื่อช่วยลดปวด คลายกล้ามเนื้อบริเวณส่วนต่างๆ ของร่างกาย และได้นำไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ผู้มีความรู้เพื่อให้อุปกรณ์และท่ากายบริหารดังกล่าวสามารถใช้ได้จริง ไม่เกิดโทษ และเกิดประโยชน์ต่อสมาชิกกลุ่มก่อนที่จะนำมาทดลองใช้โดยให้ชื่อนวัตกรรมสุขภาพแก้ปัญหาเฉพาะจุดนี้ชื่อว่า “เชือกเปียตบชวา คลายปวด เมื่อย ตึง”
- วัตถุประสงค์ เพื่อสร้างนวัตกรรมช่วยลดปวด คลายกล้ามเนื้อบริเวณส่วนต่างๆ ของร่างกาย
- ขั้นตอนการดำเนินงาน
- สำรวจปัญหาสุขภาพอาการปวดกล้ามเนื้อของกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรจักสานผักตบชวา
- นำปัญหาที่พบไปปรึกษาขอคำแนะนำพร้อมทั้งเสนอแนวคิดเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์เชือกเปียผักตบชวาในการช่วยคลายอาการปวดเมื่อยของกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรจักสานผักตบชวา
- นำอุปกรณ์เชือกเปียผักตบชวาไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่มีความเกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่สาธารณสุข เจ้าหน้าที่พละศึกษาประจำอำเภอสรรคบุรี นักกายภาพบำบัดโรงพยาบาลสรรคบุรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกายภาพ
- จัดทำสื่อประกอบการใช้ “เชือกเปียตบชวา คลายปวด เมื่อย ตึง”
- สาธิตและทดลองใช้นวัตกรรม “เชือกเปียตบชวา คลายปวด เมื่อย ตึง”
- ประเมินผลหลังการใช้ 4 สัปดาห์ และความพึงพอใจต่อนวัตกรรม
- ผลการดำเนินงาน/ประโยชน์ที่ได้รับ
- ผลของการประเมินอาการปวดเมื่อยตามส่วนต่างๆ โดยให้ระบุจุดที่เป็นปัญหา 3 จุด พบว่าหลังใช้ “เชือกเปียตบชวา คลายปวด เมื่อย ตึง” จุดที่เป็นปัญหาดีขึ้นร้อยละ 73 จุดที่เป็นปัญหายังคงเดิมร้อยละ 27
- ผลการวัดระดับความเจ็บปวดร่างกาย พบว่า กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรจักสานผักตบชวา หลังใช้ “เชือกเปียตบชวา คลายปวด เมื่อย ตึง” ระดับความเจ็บปวดดีขึ้นร้อยละ 91 ระดับความเจ็บปวดคงเดิมร้อยละ 9
- ผลการประเมินความพึงพอใจของผู้ใช้นวัตกรรม เชือกเปียผักตบชวา คลายปวด เมื่อย ตึง พบว่าโดยรวมมีความพึงพอใจต่อนวัตกรรมร้อยละ 100 รองลงมา มีความพึงพอใจต่อนวัตกรรมเชือกเปียผักตบชวา คลายปวด เมื่อย ตึง สะดวก สามารถนำไปใช้ได้ง่าย ร้อยละ 9
จากการดำเนินกิจกรรมของกลุ่มจักสานผักตบชวาบ้านบางกระบวย และชมรมออกกำลังกายบ้านบางกระบวย ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี ทำให้สมาชิกสามารถทำอยู่ที่บ้านได้ ทำให้มีเวลาดูแลครอบครัวมากขึ้น ครอบครัวอบอุ่น ไม่มีปัญหายาเสพติดในชุมชน และมีเวลาจัดสภาพบ้านเรือนให้เป็นสัดส่วนน่าอยู่น่าอาศัย มีรายได้เสริมจากกิจกรรมของกลุ่มจนสร้างความมั่นคงด้านรายได้ มีความมั่นคงทางด้านอาหารในครัวเรือนและชุมชน เนื่องจากมีการส่งเสริมให้สมาชิกปลูกผักปลอดภัยไว้บริโภคและนำมาแบ่งปันกันในกลุ่ม ได้มีเวลาสนใจสุขภาพของตนเองมากขึ้น ผลจากการเข้าร่วมกิจกรรมออกกำลังกายพบว่าสมาชิกที่เข้าร่วมนอกจากได้ออกกำลังรวมกันแล้วยังมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้การดูแลสุขภาพของแต่ละคน จนเกิดเรื่องเล่าความประทับใจขึ้นในกลุ่ม ทำให้ช่วงเวลาที่ได้ออกกำลังกาย พูดคุย พบปะร่วมกันในกลุ่ม 1 ชั่วโมง เป็นช่วงเวลาที่มีความสุข