นวัตกรรม อสม. ต้นแบบชุมชนสร้างสุข
ประเภทนวัตกรรม (จำแนกตามเป้าหมาย)
สาขาที่ประกวด การจัดการสุขภาพชุมชนและอนามัยสิ่งแวดล้อม
จังหวัด ชัยภูมิ
อสม.ดีเด่นระดับ ชาติ
ชื่อ นายเชาวฤทธิ์ ภิญโญทรัพย์
ที่มาและความสำคัญของการสร้างนวัตกรรม
ชุมชนบ้านสามสวนกลาง หมู่ที่ 14 ตำบลอำเภอบ้านแท่น จังหวัดชัยภูมิ เป็นชุมชนชนบท ประชากรส่วนใหญ่ร้อยละ 87 ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นอาชีพหลัก ได้แก่ การทำไร่อ้อย การทำนาข้าว และอาชีพรอง ได้แก่ ค้าขาย รับจ้าง จากการสำรวจและวิเคราะห์ปัญหาด้านสุขภาพของคนในชุมชนผ่านการประชาคมหมู่บ้านร่วมกับภาคีเครือข่ายพบปัญหา 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ปัญหาด้านสุขภาพ (โรคเรื้อรัง เบาหวาน ความดัน)ด้านที่ 2 ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม (ปัญหาขยะ การเผาวัสดุเหลือใช้ในพื้นที่เกษตรกรรม การใช้สารเคมี)ด้านที่ 3 ปัญหาด้านเศรษฐกิจ (รายได้ไม่เพียงพอ) และได้ดำเนินการจัดทำแผนสุขภาพโดยเริ่มจากการประชาคมหมู่บ้านเพื่อนำข้อมูลมาจัดทำแผน ใช้เครื่องมือที่ชุมชนมีความพร้อม เช่น เครื่องมือแผนที่ยุทธศาสตร์ หรือเครื่องมืออื่นๆ ทั้งนี้แผนที่ได้มี 2 ด้าน นำสู่การสร้างกิจกรรม คือ ด้านสร้างสุขภาพ ด้านซ่อมสุขภาพ
ในการจัดการปัญหาที่มีผลต่อสุขภาพดังกล่าว อสม. เชาวฤทธิ์ ภิญโญทรัพย์ ร่วมกับผู้นำชุมชน ประชาชน และผู้เกี่ยวข้อง ดำเนินการโดยใช้หลัก TPAR ได้แก่ T: Team มีทีมสุขภาพระดับตำบลมีศักยภาพ P: Plan มีการจัดทำแผนสุขภาพตำบลแบบมีส่วนร่วม A: Activity มีการจัดกิจกรรมหรือบริการสุขภาพตามกลุ่มวัย R: Result มีผลลัพธ์การดำเนินงานด้านสุขภาพในชุมชน ซึ่งการดำเนินการจัดการปัญหาแต่ละด้านประกอบด้วย คนต้นแบบด้านสุขภาพใช้หลัก 3อ. 2ส. คือ 3อ. : อาหาร ออกกำลังกาย อารมณ์ 2ส. : ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มสุรา คนต้นแบบด้านสิ่งแวดล้อม ใช้หลัก 3ป. : ปลอดภัย ประหยัด ประโยชน์ และแนวคิดเกษตรอินทรีย์วิถี อสม. ใช้หลัก 55555 คือ 5 มี5ไม่ 5ให้ 5ส่ง 5ห้าม เพื่อให้คนในชุมชนมีสุขภาพดี มีสิ่งแวดล้อมที่ดี มีความสุข มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ภายใต้แนวคิดสานพลังชุมชน ร่วมสร้างสุขภาพ จัดการสิ่งแวดล้อม เพื่อชุมชนเข้มแข็งยั่งยืน
วัตถุประสงค์
- เพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพ และสิ่งแวดล้อมของคนในชุมชน
- เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนในการแก้ไขปัญหาสุขภาพ และสิ่งแวดล้อม
- เพื่อให้คนในชุมชนมีสุขภาพดี เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ
ขั้นตอนการดำเนินงาน
อสม. เชาวฤทธิ์ภิญโญทรัพย์ประสานความร่วมมือกับคนในชุมชน กลุ่มองค์กร และภาคีเครือข่าย สำรวจและวิเคราะห์ประเด็นพฤติกรรมเสี่ยงที่มีผลต่อสุขภาพ พบปัญหา 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ปัญหาด้านสุขภาพ ด้านที่ 2 ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม และด้านที่ 3 ปัญหาด้านเศรษฐกิจ รวบรวมข้อมูลที่ได้มาจัดทำแผนด้านสุขภาพผ่านการประชาคมหมู่บ้านให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการวางแผนจัดการปัญหาสุขภาพให้กับคนในชุมชน
ปัญหาด้านสุขภาพ
เริ่มจากตนเองเป็นต้นแบบขยายสู่การสร้างสุขภาพให้กับคนในชุมชน ทำตนเองเป็นต้นแบบด้านสุขภาพ “กินปลาเป็นหลัก กินผักเป็นยา กินกล้วยน้ำว้าเป็นของว่าง ก้าวย่างวันละ 5000 สังสรรค์กับเพื่อนฝูง” ใช้หลัก 3อ. 2ส. (อาหาร ออกกำลังกาย อารมณ์ ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มสุรา) คือ เลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ครบ 5 หมู่ หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีรสหวาน มัน เค็ม มากเกินไป ออกกำลังกายเป็นประจำ จนสามารถลดน้ำหนักตนเองจาก 130 กิโลกรัม เหลือ 70 กิโลกรัม เป็นผู้นำด้านการออกกำลังกายตลอดจนการสนับสนุนการออกกำลังกายให้กับคนในชุมชน เกิดการรวมกลุ่มกันออกกำลังกายจาก 1 ชมรมในปี 2564 เพิ่มเป็น 12 ชุมชน ในปี 2566 เกิดนวัตกรรม ห่วงใย ห่วงยืด จากการนำยางรถยนต์เก่าที่ไม่ใช้แล้วนำมาออกแบบเป็นที่ออกกำลังกาย เพื่อส่งเสริมสุขภาพให้กับคนในชุมชน ทำให้กลุ่มเสี่ยงผู้ป่วยโรคเรื้อรังลดลง ส่งเสริมสุขภาพจิตค้นหาผู้ป่วยในระดับชุมชนเพื่อให้ได้รับการแนะนำและการรักษาที่ถูกต้องลด ละ เลิก การสูบบุหรี่ ดื่มสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกิดแนวคิดงานศพปลอดเหล้า “งานไหนมีเหล้าวาง น่าละอาย”
ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ
ใช้หลัก 3ป. (ปลอดภัย ประหยัด ประโยชน์) คือ ส่งเสริมการปลูกผักในครัวเรือน ไม่ใช้สารเคมี สร้างความมั่นคงทางด้านอาหารที่ปลอดภัยให้กับตนเองและคนในชุมชน ลดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในครัวเรือน แนวทางการจัดการขยะ เน้นการลดขยะต้นทาง ลดการใช้ถุงพลาสติก เริ่มจากครอบครัวตนเอง คัดแยกขยะในครัวเรือน ทำให้ขยะลดลง 1,260 กิโลกรัมต่อเดือน เหลือ 68 กิโลกรัมต่อเดือน จากการใช้ถังย่อยสลายขยะเปียกในครัวเรือน โดยการนำภาชนะมาเจาะรูที่ก้นภาชนะแล้วขุดหลุม นำเศษผักที่เหลือจากครัวเรือนมาเทใส่ในถังปิดฝาให้มิดชิด เกิดการย่อยสลายกลายเป็นปุ๋ย เป็นการลดปัญหาขยะเปียกในชุมชน นำกระสอบข้าวของชาวบ้านออกแบบเป็นถุงย่ามสำหรับใช้ใส่สินค้าแทนการใช้ถุงพลาสติกจากร้านค้าในหมู่บ้าน ลดการใช้ถุงพลาสติก นำผ้าลานที่ใช้ในลานสีข้าวมาออกแบบทำเป็นถุงสำหรับใช้ในการคัดแยกขยะรีไซเคิล/ขยะขายได้ เพื่อให้สะดวกและง่ายต่อการคัดแยกขยะนำมาฝากขายในธนาคารขยะ เงินที่ได้จากการขายขยะจะเป็นสวัสดิการในการจัดการศพ แนวทางการจัดการมลพิษอากาศ PM 2.5 ให้คำแนะนำในการติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศ ให้ความรู้ เยี่ยมสังเกตการณ์ หากพบอาการผิดปกติประสานส่งต่อกับเจ้าหน้าที่ รพ.สต. แนวทางการจัดการป่าชุมชน พึ่งพิงการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรป่าไม้อย่างยั่งยืน อนุรักษ์พลังงานอย่างรู้คุณค่า ปลูกป่า 5 ระดับ เกิดแนวคิดเกษตรอินทรีย์ วิถี อสม. คือ การน้อมนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้เป็นแนวทางในการทำการเกษตร ด้วยหลักธรรมชาติไม่ทำร้ายสิ่งแวดล้อมบนพื้นที่การเกษตรทั้งทางดิน ทางน้ำ และทางอากาศ ประกอบด้วย 55555
5ไม่ คือ ไม่เผาวัสดุเหลือใช้จากการเกษตร ไม่ฆ่าวัชพืชหรือแมลงต่างๆ ไม่ทิ้งขยะ ไม่ใช้ถุงพลาสติก ไม่ใช้สารเคมี เกิดนวัตกรรมบ่อหมักปุ๋ยชีวภาพ โดยการนำท่อซีเมนต์มาสร้างเป็นบ่อหมักและนำเศษอาหาร เศษผักที่เหลือจากครัวเรือนมาหมักเป็นปุ๋ยและน้ำหมักเพื่อใช้ในการบำรุงผักสวนครัว ลดปัญหาการใช้สารเคมี 5ให้ คือ ให้สุขภาพที่ดี ให้สังคมที่ดี ให้สิ่งแวดล้อมที่ดี ให้โอกาสเรียนรู้ ให้ความรู้เสมอ 5ส่ง คือ ส่งเสริมให้มีสุขภาพดี ส่งเสริมการเรียนรู้เสมอ ส่งเสริมให้สร้างความสุข ส่งเสริมให้มีรายได้ ส่งเสริมให้มีอาชีพ 5ห้าม คือ ห้ามใจตนเองในการปฏิบัติผิดกฎ ห้ามท้อที่จะทำและพัฒนาเพื่อครอบครัวชุมชน ห้ามอ่อนแอในการปฏิบัติหรือสิ่งที่ทำ ห้ามหมดไฟหาไฟให้ตัวเองเสมอ หาความรู้อยู่ตลอดเพื่อพัฒนาไฟในตัวเอง ห้ามผิดสัญญาชุมชน การดำเนินงานเกษตรอินทรีย์วิถี อสม. ถือเป็นคำตอบของความสำเร็จของการจัดการของการจัดการสุขภาพชุมชนและอนามัยสิ่งแวดล้อมได้อย่างแท้จริงและยั่งยืน
หลังจากดำเนินกิจกรรมแล้วจะมีการประเมินผลการดำเนินงานแบบมีส่วนร่วม
เป็นการประเมินผลที่เกิดประโยชน์ต่อชุมชนทำให้ชุมชนได้รับรู้สถานการณ์ และผลการทำงานที่ผ่านมาได้อย่างทั่วถึง เพื่อให้ชุมชนเห็นความสำคัญและตระหนักถึงความจำเป็นที่ต้องการประเมินผลงานทำให้ค้นหาจุดอ่อนการดำเนินงานของชุมชนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยจัดตั้งทีมหรือคณะทำงานในการติดตามประเมินผล วางแผนออกแบบการติดตามและประเมินผล จัดเวทีนำเสนอผลให้ชุมชนรับทราบ แสดงความยินดีในความสำเร็จ วางแผนแก้ไขส่วนที่เป็นปัญหาและหาทางพัฒนาร่วมกันต่อไป
ผลการดำเนินงาน/ประโยชน์ที่ได้รับ
- การดำเนินงานคนต้นแบบด้านสุขภาพ เมื่อเปรียบเทียบลจากปี 2564-2566 พบจำนวนกลุ่มเสี่ยงโรคเรื้อรังลดลงจนไม่พบผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง ไม่มีผู้ป่วยโรคเรื้อรังเพิ่มขึ้น ดัชนีมวลกายของประชากรอายุ 35 ปีขึ้นไป ที่มีน้ำหนักเกิน น้ำหนักอยู่ในเกณฑ์อ้วนและอ้วนมากมีจำนวนลดลง การคัดกรองสุขภาพจิตของประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไป จำนวน 293 คน พบผลปกติทุกคน ผู้ที่สูบบุหรี่จำนวน 54 คน สามารถลดการสูบบุหรี่ได้ 49 คน เลิกสูบบุหรี่ได้ 2 คน ผู้ที่ดื่มสุรา 137 คน ลดการดื่มสุราได้ 122 คน เลิกดื่มสุราได้ 16 คน
- การดำเนินงานคนต้นแบบด้านสิ่งแวดล้อม พบครัวเรือนปลูกผักในแปลงผักรวม 42 ครัวเรือน ปลูกผักในครัวเรือน 140 ครัวเรือน รวม 182 ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 92.85 สามารถลดค่าใช้จ่ายได้ 10,950 บาทต่อปีต่อครัวเรือน ไม่มีการใช้สารเคมี ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี ในครัวเรือนต้นแบบ ครัวเรือนที่ร่วมจัดทำถังย่อยจำนวน 193 หลังคาเรือน คิดเป็นร้อยละ 100 สามารถลดจำนวนขยะเปียกจาก 230 กิโลกรัม/เดือนจนเหลือ 0 กิโลกรัม/เดือนได้ ผลจากการคัดแยกขยะระดับครัวเรือน การทำธนาคารขยะ ลดขยะต้นทาง ลดการใช้ถุงพลาสติก สามารถลดจำนวนขยะประเภทต่างๆ จาก 1,260 กิโลกรัม/เดือน เหลือ 68 กิโลกรัม/เดือน การจัดการมลพิษอากาศทำให้ปัญหามลพิษทางอากาศลดลงจนไม่พบปัญหา
- การดำเนินงานเกษตรอินทรีย์ วิถี อสม. สามารถพลิกฟื้นพื้นที่ทิ้งขยะเป็นพื้นที่ปลูกพืชผักปลอดสารเกษตรอินทรีย์ วิถี อสม. เพิ่มรายได้จากการขายผัก 8,400 บาทต่อปีต่อครัวเรือน ลดค่าใช้จ่ายจากการใช้สารเคมี 20,000 บาท ต่อปีต่อครัวเรือน ไม่มีการเผาขยะ ไม่มีไฟป่า ไม่มีสารเคมี ไม่มีถุง ไม่มีขยะ ประชาชนมีสุขภาพดีตรวจสารเคมีในเลือดปกติเพิ่มขึ้นร้อยละ 31.33 เกิดศูนย์การเรียนรู้เกษตรอินทรีย์วิถี อสม. ที่มีชีวิตและจิตวิญญาณ
ปัจจัยความสำเร็จ
- อสม. เชาวฤทธิ์ เป็นต้นแบบด้านการจัดการสุขภาพ และสิ่งแวดล้อม เริ่มจากตนเองขยายสู่ชุมชน
- ภาคีเครือข่ายให้ความร่วมมือในการดำเนินงาน และให้การสนับสนุนด้านงบประมาณ
- มีการกระตุ้นให้เกิดความความต่อเนื่องและยั่งยืนในชุมชน
โอกาสในการพัฒนา
พัฒนาต่อยอดการดำเนินงานจากชุมชนของตนเองขยายสู่ทุกชุมชนในอำเภอบ้านแท่น จังหวัดชัยภูมิ