องค์ความรู้นวัตกรรม

ชื่อนวัตกรรม

หมอนเจลลดแผลกดทับ

ชื่อเจ้าของผลงาน

อสม.

ขวัญใจ

ธิปัตย์

สาขาที่ประกวด

สาขาการบริการในศูนย์สาธารณสุขมูลฐานชุมชน (ศสมช.)และการสร้างหลักประกันสุขภาพ

ประเภท

นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ (Product Innovation)

จังหวัด

สุราษฎร์ธานี

อสม.ดีเด่นระดับ

อสม.ดีเด่นระดับ ภาค

Loading

อสม.ดีเด่นระดับภาค
สาขาการบริการสุขภาพในศูนย์สาธารณสุขมูลฐานชุมชน
(ศสมช.) และการสร้างหลักประกันสุขภาพอำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี

นางขวัญใจ ธิปัตย์
อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หมู่ที่ 9 บ้านหนองรี
ตำบลย่านยาว อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี


รูปแบบนวัตกรรมผลิตภัณฑ์(Product innovation)
ความสำคัญและความเป็นมา
แผลกดทับ (Bedsores หรือ Decubitus ulcer) เป็นแผลเปื่อยที่เกิดจากผิวหนังและเนื้อเยื่อ
เกี่ยวพันใต้ผิวหนังขาดเลือด สาเหตุเกิดจากการกดทับเป็นระยะเวลานาน (พวงทอง 2555) แผลกดทับ
นั้นมี 4 ระยะ ระยะที่1 ผิวหนังบริเวณที่ถูกกดทับจะเป็นรอยแดง ยังไม่มีการฉีกขาด ระยะที่ 2 มีการ
สูญเสียของผิวหนังทั้งหมด เกิดแผลลึกถึงชั้นใต้ผิวหนัง ระยะที่ 3 มีการสูญเสียผิวหนังทั้งหมด มองเห็นชั้น
กล้ามเนื้อ กระดูก เอ็นและเยื่อหุ้มข้อต่อ ระยะที่ 4 เป็นระยะที่มีความลึกของแผลลุกลามเข้าไปในชั้น
กล้ามเนื้อ ( พัทนัย และคณะ 2555 )จากการสำรวจของ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ พบว่า ขณะนี้มี
ประชากรทั้งหมด 64.5 ล้านคน และมีจำนวนผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 9.4 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ
14.5 ของประชากรทั้งหมด เพิ่มขึ้นปีละ 5 แสนคน และคิดว่าคนไทยในปี 2568 จะก้าวเข้าสู่การเป็น
ผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ ประมาณ 14.4 ล้านคน เพิ่มขึ้นเกินร้อยละ 20 ของประชากร และผู้สูงอายุร้อยละ
85 หรือ 6 ล้านคน สามารถดูแลตนเองได้ และอีก 1 ล้านคน ที่ติดเตียง ติดบ้าน ต้องพึ่งพาผู้อื่น และอีก
6300 ล้านคน ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้เลย (นพ.ณรง 2561 )
แผลกดทับเป็นภาวะแทรกซ้อนที่เกิดได้กับผู้สูงอายุและกลุ่มผู้ป่วยติดเตียง เช่น ผู้ป่วยที่เป็น
อัมพาตจากโรคหลอดเลือดสมอง ผู้ป่วย ที่ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะหรือกระดูกสันหลัง ผู้ป่วย กระดูกขาหักที่
ต้องใช้เครื่องดึงกระดูกหรือเข้าเฝือก เป็นระยะเวลานานๆโดยเฉพาะผู้ป่วยสูงอายุที่ช่วยเหลือ ตัวเองได้
น้อย และผู้ป่วยระยะสุดท้าย ที่มีความจำกัดในการเคลื่อนไหว ( จินพิชญ์ชา 2558 ) แผลกดทับเป็นแผล
ที่เกิดจากแรงกดทับมากกว่า 32 มิลลิเมตรปรอท กระทำต่อร่างกายต่อเนื่องและเป็นเวลานาน ( อารี และ
คณะ 2545 ) เมื่อเกิดการกดทับจะทำให้เกิดการตีบตันของหลอดเลือดฝอยและหลอดเลือดแดงเล็กๆ มี
ผลทำให้เซลล์ขาดเลือดไปเลี้ยงและรับอาหารไม่เพียงพอ รวมทั้งไม่สามารถขับของเสียออกไปจึงทำให้เกิด
การตายของเซลล์ ( ชวลี 2542 ; 12-25 ) จึงทำให้การพลิกตะแตงตัวผู้ป่วยที่มีความจำกัดในการ
เคลื่อนไหวร่างกายหรือเคลื่อนไหวไม่ได้เลย นับเป็นเรื่องยากและลำบากสำหรับผู้ดูแลผู้ป่วย และหากทำ
การพลิกตะแคงผิดหรือเกิดการผิดพลาด อาจทำให้เพิ่มความรุนแรงของปัญหาแผลกดทับเพิ่มขึ้น ปกติการ
พลิกตัวผู้ป่วยเป็นกิจกรรมที่สำคัญและมีความจำเป็นในการป้องกันแผลกดทับ ซึ่งการจัดท่าให้เกิด
ประสิทธิผลในการป้องกันและจัดการกับแผลกดทับในท่านอน ควรจัดให้ศีรษะสูงไม่เกิน 30 องศา ควร
นวัตกรรมหมอนเจลลดแผลกดทับ อสม.ดีเด่นระดับภาค สาขาการบริการสุขภาพในศูนย์สาธารณสุขมูลฐานชุมชน
(ศสมช.) และการสร้างหลักประกันสุขภาพอำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ต้องพลิกตะแคงตัวผู้ป่วยทุกๆ 2 ชั่วโมง ตะแคงตัวทั้งซ้ายและขวาสลับกันไม่เกิน 30 องศา ( จิณพิชญ์ชา 2558 ) และอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดแผลกดทับ คือการเกิดแรงเสียดสี โดยผู้ป่วยถูกลากหรือดึงจะเกิดการหลุดลอกของผิวหนังชั้นนอกและเนื้อเยื่อถูกทำลายได้ทำให้อาการอาจรุนแรงกว่าเดิม ( Braden &Berstrem 2000 ) มีการศึกษาพบว่า เมื่อมีแรงกด 500 มิลลิเมตรปรอท เป็นเวลานานถึง 4 ชั่วโมง จะเกิดการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อส่วนลึกและกล้ามเนื้อ ในขณะที่ผิวหนังเป็นปกติต้องเพิ่มแรงกดเป็น 800มิลลิเมตรปรอท เป็นเวลานาน 8 ชั่วโมง จึงเกิดการบาดเจ็บของชั้นผิวหนัง แผลที่เกิดจากแรงกดทับจึงมี
การทำลายถึงเนื้อเยื่อระดับลึก ( Braden & Bryunt 1990 ) การพลิกตะแคงผู้ป่วยจึงเป็นเรื่องยาก
สำหรับผู้ดูแลจากปัญหาข้างต้นจึงได้จัดทำนวัตกรรม หมอนเจลลดแผลกดทับ เพื่อแก้ปัญหาแผลกดทับที่เกิดใน
ผู้ป่วยติดเตียงในหมู่ 9 บ้านหนองรีตำบลย่านยาว อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานีเนื่องจากผู้ป่วยไม่ได้มีการ
พลิกตะแคงและนอนเป็นระยะเวลานานจึงเกิดปัญหาแผลกดทับจากเบาะที่นอนไม่มีความยื่นหยุ่นและนิ่ม
จึงได้คิดค้นหมอนเจลลดแผลกดทับ รองในการนอน เพื่อลดการเกิดแผลกดทับ โดยหมอนเจลทำมาจาก
เจลประคบเย็นมีความนิ่ม จึงสามารถบรรเทาการเกิดแผลกดทับได้
วัตถุประสงค์
(1.) เพื่อป้องกันการเกิดแผลกดทับในผู้ป่วยติดเตียง
(2.) เพื่อส่งเสริมสุขภาพกายและใจที่ดีขึ้นของผู้ป่วยหลังจากได้ติดตามเยี่ยมบ้าน
กลวิธีการดำเนินงาน
นวัตกรรมหมอนเจลลดแผลกดทับ เป็นนวัตกรรมที่ทำขึ้นโดยนำรูปแบบของหมอนมา
ปรับเปลี่ยนให้มีลักษณะนูนและมารวมกับเจลประคบเย็น โดยจัดทำเป็นหมอนเจลลดแผลกดทับเพื่อสนอง
ความต้องการของผู้ป่วยติดเตียง โดยนำต้นทุนมาจากการนำซาเล้งสื่อรักไปรับบริจาคขยะมาจากชาวบ้าน
หมู่ที่ 9 บ้านหนองรี มารวบรวมไว้ที่สาสุขมูลฐาน เพื่อนำไปขายแล้วนำเงินมาต่อยอดและพัฒนาจนมาเป็น
หมอนเจลลดแผลกดทับให้แก่ผู้ป่วยติดเตียง หมู่ 9 บ้านหนองรีซึ่งทำให้ผลลัพธ์ในการดำเนินงานให้เกิด
ประโยชน์แก่ผู้ป่วยติดเตียง
วัสดุอุปกรณ์
(1.) เจลประคบเย็น
(2.) เศษผ้า (สำหรับทำปลอกหมอน)
(3.) ฟองน้ำ
(4.) เข็มเย็บผ้า
(5.) ด้ายเย็บผ้า
(6.) ผ้าซิป
นวัตกรรมหมอนเจลลดแผลกดทับ อสม.ดีเด่นระดับภาค สาขาการบริการสุขภาพในศูนย์สาธารณสุขมูลฐานชุมชน
(ศสมช.) และการสร้างหลักประกันสุขภาพอำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี หน้า 3
12.6. ขั้นตอนการทำนวัตกรรม
(1.)นำเศษผ้ามาเย็บให้ได้ขนาด/ช่องตามที่ต้องการ และใส่ผ้าซิป
(2.)ตัดฟองน้ำให้ได้ขนาดตามที่ต้องการ
(3.)นำฟองน้ำใส่ในช่องที่เย็บไว้
(4.)นำเจลประคบเย็นใส่ทับบนฟองน้ำ
(5.)จัดทรงให้ได้ตามที่ต้องการ และรูดซิป
12.7. งบประมาณ
ฟองน้ำ 4 อัน อันละ 25 บาท รวม 200 บาท
12.8. หลักคิดและทฤษฎีที่นำมาใช้กระบวนการมีส่วนร่วมกระบวนการมีส่วนร่วมนับเป็นหัวใจสําคัญของการพัฒนาในทุกระดับเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนร่วมคิด วิเคราะห์ ตัดสินใจ การวางแผน การปฏิบัติตามแผน การติดตามประเมินผลในกิจกรรม/โครงการของชุมชน เป็นการสร้าง ปลูกฝังจิตสํานึกในความเป็นเจ้าของกิจกรรมและโครงการแนวคิดกระบวนการมีส่วนร่วม ปัจจุบัน แนวคิดการมีส่วนร่วมของประชาชนในงานพัฒนา (People Paticipation for Development) ได้รับการยอมรับและใช้เป็นแนวทางปฏิบัติในงานพัฒนาทุกภาคส่วนหรือในลักษณะเบญจภาคี ได้แก่ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนองค์กรพัฒนาเอกชน นักวิชาการ และประชาชน รวมพลังกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
ความหมายของการมีส่วนร่วม Cemer (Priticia Lundy, 1999, หน้า 125) กล่าวว่า “การให้โอกาส
ให้ประชาชนเป็นฝ่ายตัดสิน กําหนดความต้องการของตนเองเป็นการเสริมพลังอํานาจให้ประชาชน ระดม
ขีดความสามารถในการจัดการทรัพยากร การตัดสินใจ และควบคุมกิจกรรมต่าง ๆ มากกว่าที่จะเป็นฝ่าย
ตั้งรับการพัฒนาเพียงฝ่ายเดียว” (กระบวนการและเทคนิคการทํางานของนักพัฒนา หน้า 196)
สําหรับสายทิพย์ สุคติพันธ์ (2534 หน้า 92) กล่าวว่า เป็นการเปลี่ยนแปลงกลไกในการพัฒนา
จากการพัฒนาโดยรัฐ มาเป็นการพัฒนาที่ประชาชนมีบทบาทหลัก การมีส่วนร่วมของประชาชน จึง
หมายถึงการคืนอํานาจ (Empowerment) ในการกําหนดการพัฒนาให้ประชาชนต้องมีส่วนร่วมในการ
ริเริ่มและดําเนินกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับสภาพความเป็นอยู่การพัฒนา การแก้ไขปัญหา การกําหนดอนาคต
ของประชาชนเองนวัตกรรมหมอนเจลลดแผลกดทับ อสม.ดีเด่นระดับภาค สาขาการบริการสุขภาพในศูนย์สาธารณสุขมูลฐานชุมชน(ศสมช.) และการสร้างหลักประกันสุขภาพอำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี
การมีส่วนร่วมของ HO (1983 หน้า 32) ให้ความเห็นว่าการมีส่วนร่วมของประชาชนควรมี
เนื้อหาประกอบด้วย

  1. การเน้นคุณค่าการวางแผนระดับท้องถิ่น
  2. การใช้เทคโนโลยี/ทรัพยากรที่มีในท้องถิ่น
  3. การฝึกอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพประชาชนให้สามารถดําเนินการพัฒนาด้วยตนเองได้
  4. การแก้ไขปัญหาของความต้องการพื้นฐานโดยสมาชิกชุมชน
  5. การเอื้ออาทร ช่วยเหลือซึ่งกันและกันตามแบบประเพณีดั้งเดิม
  6. การใช้วัฒนธรรมและการสื่อสารที่สอดคล้องกับการพัฒนาโดยใช้ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และ
    ความชํานาญของประชาชนร่วมกับวิทยากรที่เหมาะสมและมีการประเมินผลการปฏิบัติงานด้วย
    ขั้นตอนกระบวนการมีส่วนร่วม
    กระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนในงานพัฒนานั้น ประชาชนจะต้องเข้ามามีส่วนร่วมในทุก
    ขั้นตอนของการปฏิบัติงาน โดยมีนักวิชาการจากภายนอกเป็นผู้ส่งเสริม/สนับสนุนทั้งในด้านข้อมูลข่าวสาร
    และเทคโนโลยีที่เหมาะสมบัณฑร อ่อนดํา (ทศพล กฤตยพิสิฐ, 2537 หน้า 13) กล่าวถึงการมีส่วนร่วมใน
    การพัฒนา ซึ่งเป็นการวัดเชิงคุณภาพออกเป็น 5 ขั้นตอน ดังนี้ (กระบวนการและเทคนิคการทํางานของ
    นักพัฒนา หน้า 200 – 206)
    ขั้นตอนที่ 1 การมีส่วนร่วมในขั้นการริเริ่มการพัฒนา เป็นขั้นตอนที่ประชาชน เข้ามามีส่วนร่วม
    ในการค้นหาปัญหา/สาเหตุของปัญหาภายในชุมชน ตลอดจนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจกําหนดความ
    ต้องการของชุมชน และจัดลําดับความสําคัญของความต้องการของชุมชน
    ขั้นตอนที่ 2 การมีส่วนร่วมในขั้นการวางแผนในการพัฒนาซึ่งเป็นขั้นตอนของการกําหนด
    นโยบาย วัตถุประสงค์ของโครงการ วิธีการตลอดจนแนวทางการดําเนินงานและทรัพยากรที่จะใช้
    ขั้นตอนที่ 3 การมีส่วนร่วมในขั้นตอนการดําเนินการพัฒนา เป็นส่วนที่ประชาชนมีส่วนร่วมในการสราง
    ประโ ยช น์ให้ กั บช ุ มช น โ ดยได้รับกา รสน ับ สนุ นด ้า นง บป ร ะ มา ณ เทคโ นโ ลยี ฯลฯ
    ขั้นตอนที่ 4 การมีส่วนร่วมในขั้นตอนรับผลประโยชน์จากการพัฒนา ซึ่งเป็นทั้งการได้รับผลประโยชน์
    ทางด้านวัตถุและทางด้านจิตใจ
    ขั้นตอนที่ 5 การมีส่วนร่วมในขั้นประเมินผลการพัฒนาเป็นการประเมินว่าการที่ประชาชนเข้า
    ร่วมพัฒนา ได้ดําเนินการสําเร็จตามวัตถุประสงค์เพียงใด การประเมินอาจประเมิน แบบย่อย (Formative
    Evaluation) เป็นการประเมินผลความก้าวหน้าเป็นระยะ ๆ หรืออาจประเมินผลรวม (Summative
    Evaluation) ซึ่งเป็นการประเมินผลสรุปรวมยอด
    ลักษณะของการมีส่วนร่วม
    Cohen and Uphoff (1977) กล่าวว่า การมีส่วนร่วมของประชาชนในงานพัฒนาโดยทั่วไป
    ประชาชนอาจเข้าร่วมในกระบวนการตัดสินใจว่าจะทําอะไร ร่วมในการนําโครงการไปปฏิบัติโดยเสียสละ
    นวัตกรรมหมอนเจลลดแผลกดทับ อสม.ดีเด่นระดับภาค สาขาการบริการสุขภาพในศูนย์สาธารณสุขมูลฐานชุมชน
    (ศสมช.) และการสร้างหลักประกันสุขภาพอำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี หน้า 5
    ทรัพยากรต่าง ๆ เช่น แรงงาน วัสดุ เงิน หรือร่วมมือในการจัดกิจกรรมเฉพาะด้าน เข้าร่วมในผลที่เกิดจาก
    การพัฒนาและร่วมในการประเมินผลโครงการ
    นอกจากลักษณะการมีส่วนร่วมดังที่กล่าวมาแล้วยังมีผลการศึกษาอีกบางส่วนที่กล่าวถึง
    ลักษณะการมีส่วนร่วม โดยแบ่งตามบทบาทและหน้าที่ของผู้เข้าร่วมกิจกรรมการพัฒนา
    (LeeJ Cary, 1970) ดังนี้
    • เป็นสมาชิก(Membership)
    • เป็นผู้เข้าประชุม (Aterdance at meeting)
    • เป็นผู้บริจาคเงิน (Financial Contribution)
    • เป็นประธาน(Leader)
    • เป็นกรรมการ(Membership in Committees)
      กล่าวโดยสรุปลักษณะการมีส่วนร่วมอาจแบ่งโดย
    • การสนับสนุนทรัพยากร คือ การสนับสนุนเงิน วัสดุอุปกรณ์ แรงงาน การช่วย ทํากิจกรรม
      ร่วมประชุม รวมแสดงความคิดเห็น
    • อํานาจหน้าที่ของผู้เข้าร่วม คือ ความเป็นผู้นํา เป็นกรรมการ เป็นสมาชิก
      12.9. กระบวนการใช้นวัตกรรม
      (1.) ผู้นำชุมชนประชุมหมู่บ้านให้ความรู้ประชาชนในการจัดการแยกขยะรีไซเคิล ขวดแก้ว ขวด
      พลาสติก กระดาษ พลาสติก กระป๋อง จะนำมารวบรวมรวมไว้ที่ศูนย์สาธารณสุขมูลฐาน (ศสมช.) หมู่ที่ 9
      บ้านหนองรี ซึ่งมีตะแกรงคัดแยกอยู่แล้ว โดยหากประชาชนท่านใดไม่สะดวกที่จะนำมาไว้ที่ ศสมช. ก็จะ
      มีอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) นำซาเล้งสื่อรักไปรับขยะมาไว้ที่ ศสมช. หมู่ที่ 9 บ้านหนองรี
      (2.) เมื่อได้เงินที่มีปริมาณมากพอ คณะกรรมการหมู่บ้าน อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) หมู่ที่ 9
      บ้านหนองรีพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สาธารณสุข โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลย่านยาว จะนำเงินที่ได้จาก
      การขายขยะรีไซเคิลไปต่อยอดในการจัดทำอุปกรณ์เสริม หมอนเจลลดแผลกดทับในผู้ป่วยติดเตียง
      (3.) เจ้าหน้าที่และอาสาสมัคลงพื้นที่ติดตามเยี่ยมและประเมินการใช้หมอนเจลลดแผลกดทับใน
      ผู้ป่วยติดเตียงโดยการสังเกตและใช้แบบประเมิน ADL
      นวัตกรรมหมอนเจลลดแผลกดทับ อสม.ดีเด่นระดับภาค สาขาการบริการสุขภาพในศูนย์สาธารณสุขมูลฐานชุมชน (ศสมช.) และการสร้างหลักประกันสุขภาพอำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุ
      ราษฎร์ธานี
      สรุปผลการดำเนินงาน
      เมื่อนำนวัตกรรมหมอนเจลลดแผลกดทับไปทดลองใช้กับผู้ป่วย 1 ราย ซึ่งมีแผลกดทับบริเวณรอยปุ่ม
      กระดูก พบว่า ในช่วงเวลา 1 ปีผู้ป่วยไม่พบแผลกดทับเพิ่มเติม รอยแผลเดิมทุเลาดีขึ้น
      และเนื่องด้วยมีอากาศที่ร้อน เมื่อผู้ป่วยใช้นวัตกรรมหมอนเจลลดแผลกดทับให้ความเย็น ทำให้
      ผู้ป่วยพักผ่อนได้มากขึ้น ญาติผู้ป่วยก็มีเวลาพักผ่อนจากการดูแลผู้ป่วยมากขึ้น แต่ญาติผู้ป่วยต้องการหมอน
      เจลลดแผลกดทับเพิ่มเติม และมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม เพื่อใช้เฉพาะที่ ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น
      ดังนั้น ผู้ศึกษา จึงได้กลับมาวิเคราะห์ปัญหาความต้องการของญาติผู้ป่วยโดยจะมีการพัฒนานวัตกรรมต่อยอด
      โดยประดิษฐ์หมอนเจลลดแผลกดทับให้มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม
      จากผู้เข้าร่วมตอบแบบสอบถามทั้งหมด 20 คน พบว่า ผู้ดูแลผู้ป่วยและผู้ใช้นวัตกรรมมีความพึงพอใจต่อ
      หมอนเจลลดแผลกดทับ อยู่ในระดับดีมาก

นวัตกรรม ล่าสุด

Hero heal ใจ
นางสาว
สุวรรณา
อภิญญานันท์
สาขาที่ประกวด
สาขาสุขภาพจิตชุมชน

จังหวัด 

สุราษฎร์ธานี
อสม.ดีเด่นระดับ ชาติ
สปช. บ้านตะแบกงาม
นาง
นิตยา
ยิ่งยงค์
สาขาที่ประกวด
สาขาการส่งเสริมสุขภาพ

จังหวัด 

ชุมพร
อสม.ดีเด่นระดับ ชาติ
ปฏิทินเตือนใจกินยาครบ
นาง
อนงค์รักษ์
บุญส่ง
สาขาที่ประกวด
สาขาการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคติดต่อ

จังหวัด 

พังงา
อสม.ดีเด่นระดับ ชาติ
นวัตกรรม “ชุมชนน่าอยู่ คนสุขภาพดี ด้วยวิถีเทศบาล 3”
อสม.
นฤมล
สมหวัง
สาขาที่ประกวด
สาขาการส่งเสริมสุขภาพ

จังหวัด 

ยโสธร
อสม.ดีเด่นระดับ ภาค
“ชุมชนน่าอยู่ คนสุขภาพดี ด้วยวิถีเทศบาล 3”
อสม.
นฤมล
สมหวัง
สาขาที่ประกวด
สาขาการส่งเสริมสุขภาพ

จังหวัด 

ยโสธร
อสม.ดีเด่นระดับ ภาค