เส้นทางชีวิต : ครอบครัวติดดาวลดเค็ม
แรงบันดาลใจ : บ้านควนเกาะจันทร์ แหล่งโรค NCDs
บ้านควนเกาะจันทร์ หนึ่งในชุมชนเก่าแก่ของจังหวัดกระบี่ ที่ยังคงมีกลิ่นอาย ของขนบธรรมเนียมประเพณีแบบดั้งเดิม สามารถพบเห็นการแสดงหรือการละเล่นพื้นบ้านได้ ทั่วไป ทั้งการแสดงมโนราห์ ลิเกป่า กลองยาว หรือหนังตะลุง คนที่นี่ส่วนใหญ่ใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย กินอยู่กับธรรมชาติ ประกอบอาชีพทำสวนยางพารา หรือสวนปาล์มน้ำมันเป็นหลัก แต่ด้วย ความเร่งรีบ และงานของการทำสวนที่ต้องออกแต่เช้าตรู่ และยังใช้แรงงานสูง จึงทำให้ผู้คน ส่วนใหญ่ไม่มีเวลาประกอบอาหารเอง ต้องไปเลือกซื้ออาหารสำเร็จรูป โดยเฉพาะอาหาร จำพวกของทอด แกงกะทิ หรือขนมหวาน เพราะเป็นอาหารจำพวกให้พลังงานจำนวนสูงเหมาะ แก่การทำสวน ซึ่งวิถีชีวิตแบบนี้เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนในชุมชนบ้านควนเกาะจันทร์ ป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (Non-Communicable Disease: NCDs) เป็นจำนวนมาก ปี พ.ศ. 2565 พบว่าบ้านควนเกาะจันทร์มีผู้ป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูงจำนวน 30 คน และโรคเบาหวาน 11 คน ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยทำงาน (อายุ 35 – 59 ปี) และยังพบว่าผู้ป่วย มีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นจากเดิมในปี พ.ศ. 2562 มีพบผู้ป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูงจำนวน 25 คน และโรคเบาหวาน 8 คน ด้วยเหตุนี้จึงกล่าวได้ว่าบ้านควนเกาะจันทร์ ประสบกับปัญหา การเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
กรอบการดำเนินงาน: ความสงสัย นำไปสู่หลักการทำงาน
จากคำบอกเล่าของอสม. เป็ด “ผมอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เกิด เห็นคนเป็นโรคเบาหวาน ความดัน กันเยอะ บางคนพ่อป่วย ลูกออกมาก็ป่วยตาม บางคนย่ายายเป็นหลานกลับเป็นตาม แต่บางคนอยู่ดี ๆ ก็เป็นขึ้นมาเลยก็มีครับ” จากความสงสัยนำไปสู่การหาคำตอบ ด้วยการ สังเกตพฤติกรรมของคนในชุมชนตลอดระยะเวลาการเป็นอสม. รวมไปถึงการศึกษาเนื้อหาวิชา การเพิ่มเติม อสม. เป็ดจึงมั่นใจว่าโรค NCDsไม่ได้เกิดจากพันธุกรรมเพียงอย่างเดียวแน่นอน แต่ยังเกิดจากพฤติกรรมของผู้คนอีกด้วย โดยเฉพาะพฤติกรรมการกิน การออกกำลังกาย และการสูบบุหรี่ หรือดื่มแอลกอฮอล์ จึงทำให้อสม. เป็ดเกิดแนวคิด นำมาสร้างสมการ NCDs อย่างง่าย เพื่อใช้หลักการในการจัดการโรค NCDs ของ อสม. เป็ด นั่นก็คือ NCDs = พันธุกรรม + พฤติกรรม จากสมการนี้จะเห็นว่าโรค NCDs เกิดจากสองปัจจัยสำคัญนั่นคือ พันธุกรรม และพฤติกรรม หากสามารถจัดการกับปัจจัยตัวใดตัวหนึ่งได้ ก็จะสามารถลดโอกาสการเกิด โรคไม่ติดต่อเรื้อรังลงได้ ซึ่งสิ่งที่สามารถจัดการได้อย่างแน่นอนนั่นคือ การจัดการพฤติกรรม เพื่อลดความเสี่ยงที่ก่อเกิดโรคนั่นเอง
เส้นทางสู่ ครอบครัวติดดาวลดเค็ม
กว่าจะประสบความสำเร็จในเรื่องใดเรื่องหนึ่งนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เช่นเดียวกับการจัดการ กับโรค NCDs ของบ้านควนเกาะจันทร์ที่อสม. เป็ดใช้ระยะนานกว่า 5 ปี ในการจัดการ ซึ่งเรื่องที่จะกล่าวต่อไปจากนี้เป็นเรื่องราวเส้นชีวิตของ อสม. คนหนึ่ง ที่จะนำไปสู่ความสำเร็จอย่าง “ครอบครัวติดดาวลดเค็ม” และกุญแจแห่งความสำเร็จในการจัดการปัญหา NCDs อย่างยั่งยืน
จุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง : เมื่อ พ.ศ. 2560
คนควนเกาะจันทร์มีภาวะเสี่ยงต่อการเกิด โรคความดันโลหิตสูง และป่วยเป็นโรคความ ดันโลหิตสูงเป็นจำนวนมาก แต่จากการ สอบถามชาวบ้านในเรื่องของการกินอาหาร ว่ากินรสเค็มหรือไม่ ชาวบ้าน กินแต่อาหาร รสจืด คำตอบเหล่านั้นทำให้อสม. เป็ดได้รู้ว่า รสจืดของเรานั้นไม่เท่ากัน อสม. เป็ด จึงศึกษา และหาวิธีในการตรวจวัดความเค็มที่แน่นอนของอาหารที่กินในแต่ละมื้อจนไปพบกับ “ปากกาตรวจความเค็มในอาหาร” ที่จะมาเป็น เครื่องมือสำคัญในการตรวจวัดความเค็มในอาหาร อสม. เป็ด และทีมจึงได้เริ่มดำเนิน โครงการ “รู้ไหมใครเค็ม” ในปีนั้นนำร่องในกลุ่มเล็ก ๆ อย่างครัวเรือนกลุ่มที่เสี่ยงต่อ โรคความดันโลหิตสูง จำนวน ๓๐ ครัวเรือน โดยได้รับรับงบประมาณจากกองทุนสุขภาพ ตำบลโคกยาง เครือข่ายคนสำคัญที่จะสานฝันการจัดการโรคไม่ติดต่อเรื้อรังของ บ้านควนเกาะจันทร์ให้หมดไป ภายหลังการดำเนินการโครงการ ในปีนั้นพบว่ามีครัวเรือน ที่รับประทานอาหารรสเค็มมากถึงร้อยละ 50
อสม. เป็ดยังเล่าต่อด้วยสีหน้ายิ้มแย้มอีกว่า แม้ปีนั้นจะดำเนินงานในกลุ่มเล็ก ๆ แต่อสม. เป็ด เพื่อน อสม. และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) บ้านบางผึ้งนั้นดำเนินการ ด้วยใจ ตลอดการดำเนินการเต็มไปด้วยรอยยิ้ม จนทำให้ครัวเรือนเป้าหมายรับรู้พฤติกรรม การกินของตัวเอง และที่น่าดีใจไปกว่านั้นท่านนายกองค์การบริหารส่วนตำบลโคกยาง ยังบอก อีกว่าโครงการดี ๆ แบบนี้จะให้การสนับสนุนต่อไปในทุกปี
ขยายผลความสำเร็จ : ในเมื่อการดำเนินการนำร่องในปี 2560 ประสบความสำเร็จ ในปี 2561 จะไม่ดำเนินการได้อย่างไร อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีอีกด้วย แต่ในปี 2561 นั้นการดำเนินโครงการ “รู้ไหมใครเค็ม” ขยายเพิ่มกลุ่มเป้าหมายเป็นจำนวน 58 ครัวเรือนเลยทีเดียว เมื่อจำนวนกลุ่มเป้าหมายเยอะขึ้น การทำงานก็ต้องเยอะและหนักขึ้น เป็นธรรมดา แต่อสม. เป็ด เล่าว่าเห็นแบบนี้ไม่ค่อยพบปัญหาในการทำงาน อสม. เป็ดกล่าวว่า สิ่งสำคัญในปีนั้นเลย คือ การทำงานเป็นทีม ทุกคนช่วยเหลือกันทั้งพี่น้อง อสม. และเจ้าหน้าที่ รพ.สต. รวมทั้งครัวเรือนในปีก่อนก็มาช่วยเป็นปากเป็นเสียงให้เรา รวมถึงการประสานงาน เชื่อมโยงการทำงานกันก็สำคัญ ทุกอย่างต้องชัดเจนทุกคนต้องรับรู้ข้อมูลเหมือนกัน การดำเนินงานจึงรายรื่นไร้ปัญหาอุปสรรค การดำเนินงานในปีนั้นผลค่อนข้างเป็นที่น่า พอใจ เพราะภายหลังการดำเนินงานครัวเรือนเป้าหมายมีการรับประทานอาหารเค็มลดลง ซึ่งร้อยละ 64 นั้นบอกว่ารับประทานอาหารรสชาติปกติ แต่ถึงกระนั้นก็ยังคงมีอีกร้อยละ 36 ที่ต้องดำเนินการต่อไป
ในวิกฤตยังมีโอกาส : ปีพ.ศ. 2562-2563 ทั่วโลกประสบกับวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่นั่น ก็คือ การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในช่วงปีนั้นพูดได้เลยว่าทุกที่ของไทยได้รับผลกระทบ แทบหมด จังหวัดกระบี่เองก็เช่นที่มีรายงานผู้ติดเชื้อสูงกว่า 1,000 พันและมีแนวโน้ม เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งในวิกฤตนั้นยังมีหนทางทำงาน อสม. เป็ดกล่าวว่า “2 ปีนั้นทำงานง่ายมาก เพราะคนกลัวครับ บอกอะไรเขาทํา เขาเชื่อหมด ยิ่งเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพ ทำแล้วสุขภาพจะดีขึ้น เขายิ่งเชื่อและทำตาม” ในปีนั้นจึงขยายการดำเนินงานครอบคลุมไปทุกหมู่บ้าน และเปลี่ยน ชื่อโครงการเป็น “ชุมชนลดเค็มลดโรค” มีครัวเรือนจำนวน 252 ครัวเรือนเข้าร่วมโครงการ ในปีนั้นหลังจบโครงการพบว่ามีครัวเรือนจำนวน 169 ครัวเรือน (ร้อยละ 67) รับประทานอาหาร รสชาติปกติ ซึ่งนั่นเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างน่าพึงพอใจ คนทำงานอย่างอสม. และเจ้าหน้าที่ รพ.สต. เห็นแบบนั้นก็หายเหนื่อยกันเลยทีเดียว
พัฒนาต่อยอด : ความเคยชินเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ ในการดำเนินการโครงการชุมชนลดเค็ม ลดโรคก็เช่นกัน ที่ทำอย่างไรผลการดำเนินงานก็ให้ตัวเลขเท่าเดิม ในปี พ.ศ. 2564 อสม. เป็ด และทีมจึงพัฒนาต่อยอดเป็น “ธงสีชี้เป้าความเค็ม” ซึ่งจะแจกธงสีตามระดับความเค็ม ที่ตรวจวัดในอาหารได้ เพื่อเป็นสัญลักษณ์เตือนให้กับครัวเรือน นอกจากนี้ยังมีการส่งเสริม การออกกำลังกายด้วยการใช้วัฒนธรรม และบริบทของชุมชนมาออกแบบการออกกำลัง ที่เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัย และยังเป็นที่สนใจของคนในชุมชน
ในกลุ่มวัยเรียนส่งเสริมให้นักเรียนทุกคนออกกำลังกายหน้าเสาธงในทุกวัน โดยใช้ “ดุริยางค์บิ๊ก” ประกอบการออกกำลังกายแบบมวยไทยนอกจากได้สุขภาพที่แข็งแรงนักเรียน ยังสนุกอีกด้วย
สำหรับวัยทำงานที่จะมีการออกกำลังกายแบบประยุกต์ ซึ่งบ้านควนเกาะจันทร์ได้ประยุกต์ ระหว่างศาสตร์ของแอโรบิกร่วมกับศาสตร์ของการเต้นลีลาศจึงเรียกการออกกำลังนี้ว่า “ลีลาบิ๊ก” ซึ่งเป็นการออกกำลังกายที่ทุกคนสามารถออกกำลังกายได้เองโดยไม่ต้องมีผู้นำ การออกกำลังกาย ปัจจุบันได้ขยายเป็น “ชมรมลีลาบิ๊กตำบลโคกยาง” และยังได้รับเกียรติ จากพื้นที่เข้าเคียงในการเชิญไปสอน หรือถ่ายทอดแนวทางให้อีกด้วย
กลุ่มผู้สูงอายุนั่น อสม. ได้นำการเต้นมโนราห์ที่ทุกคนคุ้นเคยมาประยุกต์กับออกกำลังกาย โดยใช่ท่านายพรานของรำมโนราห์ ทำให้ได้ชื่อว่า “พรานบิ๊ก” เป็นผสมผสานของท่าเต้น พรานและประกอบจังหวะมโนราห์ร่วมกับการออกกำลังกายแบบแอโรบิก “คนแก่ที่นี่เต้นได้ ทุกคนครับ เลยไม่มีปัญหาเรื่องการเดินการนั่งเลย ช่วยเหลือตัวเองได้ดีทุกคน” อสม. เป็ดกล่าว
มุ่งสู่นวัตกรรม : ระยะเวลากว่า 5 ปีที่ อสม. เป็ด ร่วมกับเครือข่ายในการจัดการโรคไม่ติดต่อ เรื้อรังของบ้านควนเกาะจันทร์ จนในที่สุดพัฒนาต่อยอดการดำเนินงานนวัตกรรมกระบวนการ เพื่อการจัดการสุขภาพอย่าง “ครอบครัวติดดาวลดเค็ม” ที่ต่อยอดจากปี พ.ศ. 2564 อย่างธงสีเป้าความเค็ม หากครัวเรือนไหนได้รับธงสีเขียว 5 ธงจะได้รับป้ายเกียรติคุณครอบครัว ติดดาวลดเค็ม ซึ่งนี้เป็นแรงจูงใจสำหรับคนควนเกาะจันทร์ได้เป็นอย่างดี เห็นได้จากในปีนี้ มีครัวเรือนที่รับประทานอาหารรสชาติปกติสูงถึงร้อยละ 70 เลยทีเดียว ซึ่งเป็นที่น่าภูมิใจ ของ อสม. เป็ด และทีมเป็นอย่างมาก และถึงแม้ว่าผลการดำเนินงานครอบครัวติดดาว ลดเค็มจะมีครอบครัวได้รับธงเขียว 5 ผืนตลอดทั้งปี และไม่ใช้ผงชูรส จำนวนเพียง 57 ครัวเรือน (ร้อยละ 21) เท่านั้น อสม. เป็ดก็ยังไม่คิดจะย่อท้อจะดำเนินการให้ดียิ่งขึ้นต่อไปในทุก ๆ อสม. เป็ดยังทิ้ง ทายไว้อีกว่า “จะไม่หยุดจนกว่าคนควนเกาะจันทร์จะสุขภาพดีทุกคน”
กุญแจแห่งความสำเร็จและยั่งยืน : NCDS สู้ NCDs
อย่างที่ทราบกันดีโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเป็นปัญหาสุขภาพที่ยังคงความท้าทายให้ทั้งทั่วโลก เร่งดำเนินการแก้ไข เห็นได้จากรายงานขององค์การอนามัยโลกในปีพ.ศ. 2564 ที่โรคไม่ติดต่อ เรื้อรังเป็นสาเหตุการตายของประชากรกว่าร้อยละ 75 เลยทีเดียว เช่นเดียวกับประเทศไทย ที่มีรายงานว่าในปี พ.ศ. 2564 สาเหตุการตายหลัก 3 อันดับแรกของคนไทยเกิดจากโรคไม่ติดต่อ เรื้อรัง ซึ่งเป็นเรื่องที่ท้าทาย และไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจัดการกับปัญหาของโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง แต่ถึงกระนั้นด้วยระยะเวลากว่า 5 ปี ที่ อสม. เป็ด ได้คลุกคลีอยู่กับเรื่องเล่านี้ จนทำให้ตกผลึก ความคิดจากการทำงานจริง นำไปสู่กุญแจที่ไขประตูแห่งความสำเร็จในการจัดการโรคไม่ติดต่อ เรื้อรังของบ้านควนเกาะจันทร์ นั่นก็คือ NCDS
อสม. เป็ด บอกว่า “ผมจะใช้ NCDs สู้กับ NCDs” ซึ่ง NCDs ที่อสม. เป็ดกล่าวถึง นั่นก็คือ N :Network ภาคีเครือข่ายสำคัญอย่างยิ่ง เพราะอสม. ไม่สามารถทำงานได้ด้วยตัวคนเดียว แม้จะมีแรงแต่ไม่มีเงินก็ไม่สามารถขับเคลื่อนไปถึงฝัน อสม. เป็ดกล่าวเช่นนี้”