ผู้บริโภคปลอดภัย กินผักเป็นยา พังงาผาสุก
ปาริชาติ ทองเรืองสุขใส*
*นักวิเคราะห์นโยบายและแผนปฏิบัติการ กองสนับสนุนสุขภาพภาคประชาชน กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
วัชรี ตัณฑชน**
**นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการพิเศษ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพังงา
ศรรษตรา เกตุแก้้ว***
***นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพังงา
อติเทพ จินดา****
****สาธารณสุขอำเภอตะกั่วป่า สำนักงานสาธารณสุขอำเภอตะกั่วป่า
วรัชชณา สว่างนึก*****
*****นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติฯ บางม่วง
ชุฎาภรณ์ เข็นพืช******
******นักวิชาการสาธารณสุข สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติฯ บางม่วง
ร้านอาหารต้นแบบ ผักปลอดภัย ถูกหลักอนามัย ห่วงใยผู้บริโภค
หากใครมีโอกาสแวะเวียนหรือเดินทางผ่านเขาหลัก บ้านบางสัก ตำบลบางม่วง อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา จะสังเกตเห็นร้านขนมจีนริมถนน “ร้านขนมจีนผักลอยน้ำสวนอาม่า” ที่มีสโลแกนประจำร้านว่า “กินผักเป็นยา” และตัวร้านมีความโดดเด่นตรงการจัดวางผักเหนาะ (ผักเครื่องเคียง) ที่บรรจุในถ้วยพลาสติกใสปิดฝาสนิทและปล่อยให้ไหลวนไปตามรางน้ำ ลูกค้าสามารถเลือกทานผักที่ต้องการได้อย่างสะดวกและปลอดภัย เนื่องจากผักที่ทางร้านใช้เป็นผักที่ปลูกเองโดยไม่ใช้สารเคมี และภาชนะที่ใส่ผักก็เป็นตัวป้องกันแมลงวันได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ร้านขนมจีนเป็น “ร้านอาหารต้นแบบ ผักปลอดภัย ถูกหลักอนามัย ห่วงใยผู้บริโภค” หากพิจารณาจากชื่อร้านก็อาจเข้าใจว่าเจ้าของร้านคือ “อาม่า” ซึ่งก็มีส่วนถูกต้อง แต่ร้านขนมจีนร้านนี้จะไม่มีชีวิตเลยหากไม่มี “ธมนธร มุมบ้านเซ่า” ผู้เป็นเจ้าของร้านขนมจีนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวร้านนี้ นอกจากบทบาทการเป็นเจ้าของร้านแล้ว เธอยังมีอีกบทบาทหนึ่งคือ การเป็นอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติฯ บางม่วง ตำบลบางม่วง อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา และเป็น อสม. ดีเด่นระดับชาติ ประจำปี พ.ศ. 2566 สาขาการคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพอีกด้วย
40 / ผลงาน อสม. ดีเด่นระดับชาติ ประจำปีงบประมาณ 2566 “กว่าต้นไม้จะเติบโต…กว่าจะ
เป็น อสม. ดีเด่นระดับชาติ”
อสม. ธมนธร ในวัย 55 ปี ผ่านประสบการณ์ชีวิตและการทำงาน ณ จังหวัดภูเก็ตมากกว่า 20 ปี จนกระทั่งชีวิตได้หวนกลับคืนสู่บ้านเกิดอีกครั้ง ด้วยแรงบันดาลใจจากมารดาที่ส่งเสริมให้ตนเป็น อสม. บวกกับความคิดของตนที่เห็นว่า อสม. เป็นงานจิตอาสาที่สามารถทำให้คนในชุมชนมีสุขภาพที่ดีได้ จึงอยากนำประสบการณ์ชีวิตมาสร้างประโยชน์ให้กับถิ่นฐานบ้านเกิด อสม.ธมนธรจึงตัดสินใจเดินบนเส้นทางของการเป็นนักสื่อสารด้านสาธารณสุข ตลอดระยะเวลาที่ปฏิบัติงานมาเป็นเวลา 9 ปี อสม. ธมนธรศึกษาเรียนรู้และมุ่งเน้นปฏิบัติงานด้านการคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพมาโดยตลอด เพราะเห็นว่าการบริโภคเป็นสิ่งจำเป็นขั้นพื้นฐานที่สำคัญในชีวิต หากทุกคนมีความตระหนักและเข้าใจเรื่องนี้ดีแล้ว ทุกคนในชุมชนก็จะมีความปลอดภัยและมีสุขภาพที่ดี
กระเป๋าอับดุลและสามล้อคู่ใจ
ทุก ๆ เดือน อสม.ธมนธร และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะลงพื้นที่ตามตลาด ร้านขายของชำ ร้านขายอาหารสด ร้านอาหาร และแผงลอยชายหาดบางสัก เพื่อตรวจสารปนเปื้อนในอาหารตามตลาด หรือให้คำแนะนำแก่ร้านขายของชำ ในการจัดสินค้าในร้านให้ถูกต้อง การดูฉลาก หรือการจำหน่ายยาสามัญประจำบ้าน หากแต่การทำงานด้านนี้ก็ไม่ใช่เส้นทางที่ราบรื่นนัก เนื่องจากต้องอาศัยความเข้าใจจากทุกฝ่าย ทุกครั้งที่ อสม.ธมนธรและเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจร้านขายของชำ ในชุมชนและเก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์เพื่อมาทดสอบนั้น มักจะมีปัญหาในการเข้าถึงชุมชน เนื่องจากการเดินทางไม่สะดวก ไม่สามารถตรวจสอบอาหารและผลิตภัณฑ์สุขภาพได้ทันที ต้องเก็บไปตรวจที่ศูนย์ปฏิบัติการวิทยาศาสตร์การแพทย์ชุมชน สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี บางม่วง ทำให้ผู้ประกอบการและร้านค้าไม่ให้ความเชื่อถือ ด้วยเหตุนี้ อสม.ธมนธร จึงคิดริเริ่มสร้างนวัตกรรม “กระเป๋าอับดุลและรถสามล้อคู่ใจ” ขึ้น เป็นการลงพื้นที่ด้วยรถมอเตอร์ไซค์สามล้อที่มีความคล่องตัวพร้อมเข้าถึงทุกพื้นที่ในชุมชนได้อย่างสะดวก โดยด้านข้างตัวรถตกแต่งด้วยแผ่นป้ายสีสันสะดุดตาว่า “รถสามล้อคู่ใจ ห่วงใยผู้บริโภค” ภายในตัวรถมีแผ่นป้ายให้ความรู้ด้านการบริโภคอย่างปลอดภัย โดย อสม. ธมนธรและเจ้าหน้าที่จะร่วมเดินทางไปกับรถคู่ใจคันนี้พร้อมกระเป๋าอับดุล ซึ่งเป็นกระเป๋าสานทรงสี่เหลี่ยม ที่สานโดยกลุ่มจักสานตำบลบางม่วง ภายในกระเป๋ามีคู่มือการใช้ชุดทดสอบผลิตภัณฑ์สุขภาพเบื้องต้น (Test Kit) และอุปกรณ์เก็บตัวอย่างและทดสอบเพื่อทดสอบตัวอย่างผลิตภัณฑ์สุขภาพในเวลาที่ลงพื้นที่ และรายงานผลให้พ่อค้าแม่ค้าทราบผลทันที ส่งผลให้พ่อค้าแม่ค้ามั่นใจและให้ความเชื่อถือมากขึ้น และผู้ซื้อสินค้าก็มีความตระหนัก เข้าใจเกี่ยวกับการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ถูกต้องเพิ่มขึ้น เรียกได้ว่าเป็นการบริการแบบ One Stop Service เห็นเชิงประจักษ์ จบในหนึ่งเดียว
ตาวิเศษอ่านฉลาก
งานด้านการคุ้มครองผู้บริโภคนั้นไม่ได้มีเพียงแค่การทดสอบอาหารเท่านั้น หากแต่ อสม. ธมนธร ยังให้ความรู้แก่พ่อค้าแม่ค้าและเยาวชนในชุมชนในการอ่านฉลากสินค้าที่ติดอยู่บนสินค้านั้น ๆ ได้อย่างถูกต้องด้วย ไม่ว่าจะเป็นการดูวันเดือนปีที่ผลิต วันหมดอายุของสินค้า วิธีใช้ หรือการเก็บรักษา แต่ผลิตภัณฑ์บางชนิดก็มีฉลากสินค้าที่มีขนาดเล็กมาก ทำให้มองไม่เห็นรายละเอียด นวัตกรรมอันเรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพสูงจึงเกิดขึ้นภายใต้ชื่อที่คนในวัยยุค 90 ได้ยินแล้วต้องยิ้มอย่างพึงใจกับชื่อนวัตกรรมนี้ “ตาวิเศษ” บวกด้วยคำว่า “อ่านฉลาก” เป็น “ตาวิเศษอ่านฉลาก” ที่ใช้ตัวช่วยเป็นแว่นขยายมาช่วยเป็นตาวิเศษอำนวยความสะดวกให้กับทุกคนให้สามารถอ่านฉลากได้อย่างง่ายดาย หากได้ซื้อของในร้านชำ ในบ้านบางสัก ร้อยทั้งร้อยจะต้องเห็นแว่นขยายติดไว้ที่ร้านชำ ไม่น้อยกว่า 10 ร้านแน่นอน
น้ำมันทอดซ้ำ วายร้ายที่ไม่ไร้ประโยชน์
“แม่ค้าเองก็ไม่ทราบ น้ำมันยังดูใส ก็คิดว่ายังใช้ได้ เขายังไม่มีความรู้ว่าต้องใช้น้ำมันกี่ครั้ง ต้องดูอย่างไร” “ไม่รู้ว่าน้ำมันที่ทอดซ้ำนั้นมีสารโพลาร์ที่เป็นสารก่อมะเร็ง” อสม.ธมนธร กล่าวในรายการ 5 แยกข่าว สวท. ตะกั่วป่า เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2566 เมื่อพบปัญหาดังกล่าว เธอและทีมงานจึงลงพื้นที่รณรงค์ให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการในชุมชนเกี่ยวกับภัยร้ายในน้ำมันทอดซ้ำ ทำให้พ่อค้าแม่ค้ามีความตระหนัก ไม่ใช้น้ำมันทอดซ้ำ และเปลี่ยนน้ำมันเพิ่มขึ้น อสม.ธมนธรยังเห็นว่าการนำน้ำมันทอดซ้ำไปทิ้งเป็นการสร้างภาระให้กับผู้กำจัดขยะ และเป็นภาระต่อสิ่งแวดล้อม จึงร่วมกับภาคีเครือข่ายช่วยกันนำน้ำมันทอดซ้ำมาผลิตเป็นสบู่อเนกประสงค์ ใช้ทำความสะอาดวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ในครัวเรือน เป็นการสร้างคุณค่าให้กับวายร้ายให้กลับมามีประโยชน์อีกครั้ง
อย. น้อย หนังสือป๊อปอัป กับงานคุ้มครองผู้บริโภค
อสม.ธมนธร มองเรื่องความยั่งยืนในงานคุ้มครองผู้บริโภคเป็นเรื่องที่สำคัญ จึงเป็นแกนนำร่วมกับภาคีเครือข่ายในการขับเคลื่อนโรงเรียน อย. น้อย ขยายความรู้ด้านการคุ้มครองผู้บริโภคให้เยาวชนในโรงเรียนบ้านบางม่วงให้เป็น อย. น้อยที่มีความรู้ในการเลือกซื้อสินค้า ยา เครื่องสำอาง อ่านฉลากเป็น และรู้เท่าทันโฆษณาโอ้อวดเกินจริง รวมทั้งคอยเฝ้าระวังผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ไม่ปลอดภัยทั้งในโรงเรียน บ้าน และชุมชน นอกจากนี้ อย. น้อยยังร่วมสร้างสรรค์นวัตกรรม “หนังสือเรียนมีชีวิต อ่อนหวาน ลดเค็ม จิบแฟ แลดนตรี” เป็นหนังสือป๊อปอัปหรือหนังสือสามมิติที่มีภาพประกอบสีสันสดใสและมีเนื้อหาให้ความรู้ด้านงานคุ้มครองผู้บริโภค ส่งผลให้โรงเรียนบ้านบางม่วงได้รับรางวัลโรงเรียนต้นแบบ ระดับประเทศ เมื่อปี 2565
อสม.ธมนธร ทำงาน อสม. ด้วยหัวใจสำนึกรักบ้านเกิด อยากพัฒนา แก้ไขปัญหา และดูแลสุขภาพของคนในชุมชน ทุ่มเทเต็มกำลังเพื่อให้คนในชุมชนมีความรู้ด้านการดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะงานด้านการคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพที่ทำอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กลุ่มคนในชุมชนทุกวัยมีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ การเลือกซื้อยา อาหาร และเครื่องสำอาง ลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคต่าง ๆ ที่มาจากการอุปโภคบริโภคผลิตภัณฑ์ที่ไม่ปลอดภัย นอกจากนี้ยังสามารถบูรณาการงานคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพและวิทยาศาสตร์การแพทย์ชุมชนให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชนที่เป็นถิ่นฐานบ้านเกิด และเป็นประโยชน์ในงานสาธารณสุขต่อประชาชน เป็นพลังในการสร้างสรรค์สังคมและประเทศชาติต่อไป