องค์ความรู้นวัตกรรม

ชื่อนวัตกรรม

ยุทธศาสตร์ 5-5-5 พิชิตโรคไม่ติดต่อ

ชื่อเจ้าของผลงาน

อสม.

ปรางทิพย์

ผาลี

สาขาที่ประกวด

สาขาการป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อ

ประเภท

นวัตกรรมกระบวนการ (Process Innovation)

จังหวัด

นครพนม

อสม.ดีเด่นระดับ

อสม.ดีเด่นระดับ ชาติ

Loading

ประเภทนวัตกรรม (จำแนกตามเป้าหมาย)

  • นวัตกรรมกระบวนการ (process innovation)

สาขาที่ประกวด การป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อ

จังหวัด นครพนม

อสม.ดีเด่นระดับ ชาติ

ชื่อ นางปรางทิพย์ ผาลี

ที่มาและความสำคัญของการสร้างนวัตกรรม

บ้านร่มโพธิ์ทอง หมู่ที่ 11 ตำบลนางัว อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม เป็นชุมชนตั้งอยู่ในที่ราบลุ่มระหว่างภูเขาลังกาฝั่งประเทศไทย และเทือกเขาฝั่งประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยมีแม่น้ำโขงกั้นกลาง ประชากรส่วนใหญ่จึงนิยมทำเกษตรกรรม การเพาะปลูกและการเลี้ยงสัตว์ จากการสำรวจและวิเคราะห์ปัญหาด้านสุขภาพของคนในชุมชนผ่านการประชาคมหมู่บ้านร่วมกับภาคีเครือข่ายพบปัญหาสุขภาพที่ต้องแก้ไข 3 ลำดับ คือ ลำดับที่ 1 โรคเบาหวาน/ความดันโลหิตสูง ซึ่งประชาชนนิยมรับประทานอาหารรสจัด โดยเฉพาะ หวาน-มัน-เค็ม, ไม่ตระหนักในเรื่องของการออกกำลังกายและมีความเครียดและความวิตกกังวล ลำดับที่ 2 โรคหลอดเลือดสมอง/หลอดเลือดหัวใจ ซึ่งมีสาเหตุจากการสูบบุหรี่ ความเครียดและความวิตกกังวล และลำดับที่ 3 โรคไต ซึ่งประชาชนนิยมรับประทานอาหารรสจัด หวาน-มัน-เค็ม รวมถึงการใช้ยาที่ไม่สมเหตุสมผล

ในการจัดการปัญหาสุขภาพดังกล่าว อสม.ปรางทิพย์ ผาลีร่วมกับผู้นำชุมชน ประชาชน ภาคีเครือข่ายและผู้เกี่ยวข้อง ดำเนินการโดยใช้หลัก TPAR ได้แก่ T: Team ทีมสุขภาพระดับตำบลและภาคีเครือข่ายมีศักยภาพ P: Plan มีการจัดทำแผนสุขภาพตำบลแบบมีส่วนร่วมในรูปแบบธรรมนูญสุขภาพประชาชนตำบลนางัว หมวดการป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อ A: Activity มีการจัดกิจกรรมและบริการคัดกรองสุขภาพ R: Result มีผลลัพธ์การดำเนินงานด้านสุขภาพในชุมชน และมีแนวคิดการทำงาน“ยุทธศาสตร์ 5-5-5 พิชิตโรคไม่ติดต่อ” คือ 5 พันธมิตร 5 เริ่ม 5 ลงมือ เพื่อให้ประชาชนมีความรู้และรู้จักวิธีดูแลป้องกันตนเองจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ผู้ป่วยสามารถดูแลตนเองได้และรู้จักวิธีป้องกันภาวะแทรกซ้อน ประชาชนมีสุขภาพที่ดีขึ้นภายใต้หลัก 3อ. 2ส. คือ 3อ. : อาหาร ออกกำลังกาย อารมณ์ 2ส. : ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มสุรา

ทั้งนี้ อสม.ปรางทิพย์ ผาลี ได้สูญเสียคนในครอบครัว คือ คุณป้า ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานนานถึง 20 ปีและมีแผลที่เท้าจนแผลลุกลามจนตัดเท้า “เดินไม่ได้” จึงได้มีแนวคิดที่จะช่วยให้ชาวบ้านรอดพ้นจากภัยเหล่านี้ และจะอุทิศตนเพื่อการป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อในชุมชนอย่างจริงจัง เพื่อช่วยเหลือคนบ้านร่มโพธิ์ทองให้รอดพ้นจากโรคภัย

วัตถุประสงค์

  1. เพื่อให้ชุมชนมีการรวมกลุ่มดำเนินการแก้ไขปัญหาที่โรคไม่ติดต่อที่มีผลต่อสุขภาพของคนในชุมชน
  2. เพื่อให้ชุมชนมีรากฐานที่เข้มแข็ง พร้อมดำเนินการแก้ปัญหาและสร้างสุขภาวะของคนในชุมชนด้วยตนเอง และเป็นชุมชนต้นแบบในการจัดการด้านสุขภาพ

ขั้นตอนการดำเนินงาน “ยุทธศาสตร์ 5-5-5 พิชิตโรคไม่ติดต่อ”

จากแนวคิดของ อสม.ปรางทิพย์ จึงได้ประสานความร่วมมือกับคนในชุมชน กลุ่มองค์กร และภาคีเครือข่าย สำรวจและวิเคราะห์ปัญหาด้านสุขภาพของคนในชุมชนผ่านการประชาคมหมู่บ้านปัญหาสุขภาพที่ต้องแก้ไข 3 ลำดับ คือ ลำดับที่ 1 โรคเบาหวาน/ความดันโลหิตสูง ลำดับที่ 2 โรคหลอดเลือดสมอง/หลอดเลือดหัวใจ และลำดับที่ 3 โรคไต จากปัญหาสุขภาพดังกล่าวจึงนำไปสู่การขับเคลื่อนการป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อ ภายใต้ธรรมนูญสุขภาพตำบลนางัว และ “ยุทธศาสตร์ 5-5-5 พิชิตโรคไม่ติดต่อ” ประกอบด้วย 5 พันธมิตร 5 เริ่ม 5 ลงมือ

ซึ่งการดำเนินงานเริ่มจาก 5 พันธมิตร คือ ภาคีเครือข่ายการดำเนินงาน บุคลากรที่เข้ามามีบทบาทในการขับเคลื่อนการดำเนินงานการป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อในชุมชน ได้แก่ อบต.นางัว, ผู้นำชุมชน, รพ.สต. นางัว, อสม., วัดพืชมงคลธรรมรักษ์

5 เริ่ม คือ เริ่มคิด ประชุมร่วมกับ อบต./รพ.สต./ผู้นำชุมชน/อสม. ดำเนินการแก้ไขปัญหาโรคไม่ติดต่อในหมู่บ้านทุกเดือน เริ่มวางแผน ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมวางแผนในการดำเนินกิจกรรม เริ่มตัดสินใจ การตัดสินใจดำเนินงานหรือกิจกรรม ต้องมีการประชามติในที่ประชุมทุกครั้ง เริ่มลงทุน ทุกภาคส่วนร่วมกันสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินงาน เริ่มปฏิบัติทุกภาคส่วนลงมือปฏิบัติงานร่วมกันตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย

5 ลงมือ คือ ลงมือสร้างองค์ความรู้โรคไม่ติดต่อในชุมชน โดยจัดตั้งศูนย์เรียนรู้ 3อ 2ส วิถีชุมชนคนร่มโพธิ์ทองโดยให้ความรู้ 3อ 2ส แก่ชาวบ้านร่มโพธิ์ทองทุกเดือน ลงมือคัดกรองโรคไม่ติดต่อ ได้แก่ วัดความดันโลหิต เจาะน้ำตาลปลายนิ้ว ชั่งน้ำหนัก วัดรอบเอว ประเมินพฤติกรรมเสี่ยงโดยแอปพลิเคชัน Thai CV Risk Score ลงมือสอดส่องเฝ้าระวังโรคไม่ติดต่อในชุมชน มีกิจกรรม “คู่หู คู่คิด พิชิตพฤติกรรมเสี่ยง” โดย อสม.จับคู่กับกลุ่มเสี่ยงเบาหวานและความดันโลหิตสูงที่อยู่ในเขตรับผิดชอบประเมินผลกลุ่มเสี่ยงเบาหวาน/ความดันโลหิตสูงทุกเดือนระยะเวลา 1 ปีลงมือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพใช้หลัก 3อ. 2ส. โดย อ1 อาหาร “ซุปภูลังกา” อ2 อารมณ์ มีกลุ่ม อสม. พาเพลินบ้านร่มโพธิ์ทอง “ทำแบบประเมิน 2Q ให้ความรู้เรื่องการจัดการความเครียด และจัดกิจกรรมผ่อนคลายความเครียด เช่น รำวงเซิ้งภูลังกา” อ3 ออกกำลังกายด้วย “กิจกรรมเดิน วิ่ง ปั่น ขึ้นภูลังกาทุกวันเสาร์เวลา 15.00 น.” ส1 ไม่สูบบุหรี่ มีกิจกรรม “คู่หู คู่ใจเลิกบุหรี่ได้สบายปอด” โดยผู้เข้าร่วมต้องเข้าร่วมกิจกรรม 1 ครั้ง/สัปดาห์และต้องดื่มสมุนไพรชาหญ้าดอกขาว หลังอาหาร 3 เวลาทุกวัน และอสม. จะติดตามเยี่ยมสอบถาม ให้กำลังใจผู้สมัครใจเลิกบุหรี่ทุกวัน และ ส2 ไม่ดื่มสุรามีการ “ลงนาม MOUงานบุญปลอดเหล้า งานเศร้าปลอดการพนัน” และลงมือป้องกันลดภาวะแทรกซ้อนกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง

“กลุ่มเพื่อนรักเพื่อนดูแลไต ดูแลกัน คนเบาหวานความดันบ้านร่มโพธิ์ทอง” โดยสมาชิกกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรังสลับกันออกเยี่ยมเพื่อนสมาชิกร่วมกับ อสม. แลกเปลี่ยนการดูแลตนเอง สังเกตภาวะแทรกซ้อน ทางตา ไต เท้า และสอบถามพฤติกรรมสุขภาพรวมถึงการใช้เครื่องวัดความเค็ม (Salinity Meter) ในอาหารระหว่างออกเยี่ยมบ้าน

ผลการดำเนินงาน/ประโยชน์ที่ได้รับ

ปัญหาสุขภาพที่ต้องแก้ไข 3 ลำดับ

ลำดับที่ 1 โรคเบาหวาน/ความดันโลหิตสูง

ลำดับที่ 2 โรคหลอดเลือดสมอง/หลอดเลือดหัวใจ

ลำดับที่ 3 โรคไต

  1. ผลการดำเนินงานการป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อ ปี 2566 เปรียบเทียบกับปี 2565 พบว่า มีผู้ป่วยโรคเบาหวานลดลงจากร้อยละ 2.95 เป็นร้อยละ 1.31 และกลุ่มเสี่ยงลดลงจากร้อยละ 6.23 เป็นร้อยละ 4.92 ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ลดลงจากร้อยละ 3.93 เป็นร้อยละ 1.31 และกลุ่มเสี่ยงลดลงจากร้อยละ 8.20 เป็นร้อยละ 7.21 มีกลุ่ม BMI เกิน ลดลงจากร้อยละ 21.64 เป็นร้อยละ 19.67 กลุ่มรอบเอวเกิน ลดลงจากร้อยละ 21.31 เป็นร้อยละ 19.13 และกลุ่มรอบเอวปกติเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 78.69 เป็นร้อยละ 80.87 การสูบบุหรี่ประชาชนอายุ 15 ปีขึ้นไป ลดลงจากร้อยละ 26.74 เป็นร้อยละ 23.71 ที่มา : Jhcis โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนางัว ข้อมูล ณ วันที่ 1 พ.ย 2566
  2. ผลการดำเนินงานด้านการเข้าร่วมกิจกรรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ดังนี้

“กิจกรรมคู่หูคู่คิด พิชิตพฤติกรรมเสี่ยง”ในกลุ่มเสี่ยงความดันโลหิตสูง จำนวน 22 คน พบว่า ความดันโลหิตลดลงจำนวน 8 คนและความดันโลหิตปกติจำนวน 14 คน กลุ่มเสี่ยงเบาหวาน จำนวน 15 คน พบว่า ค่าน้ำตาลลดลงจำนวน 5 คน และค่าน้ำตาลปกติจำนวน 10 คน กลุ่มเสี่ยงความดันโลหิตและกลุ่มเสี่ยงเบาหวาน จำนวน 3 คน พบว่า ค่าความดันโลหิตและค่าน้ำตาลลดลง จำนวน 1 คน ค่าความดันโลหิตและค่าน้ำตาลปกติจำนวน 2 คน

“การคัดกรองสุขภาพจิตของประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไปและกิจกรรมคลายความเครียด” พบว่า ประชาชน 15 ปีขึ้นไปมีความเครียดลดลง หลังจากเข้าร่วมกิจกรรม อสม. พาเพลิน ระยะเวลาในการร่วมกิจกรรม 1 เดือน มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 367 คน พบว่ามีความเครียดลดลงจากจำนวน 68 คน เป็นจำนวน 14 คน

กิจกรรม “คู่หูคู่ใจเลิกบุหรี่ได้สบายปอด” มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 30 คน พบว่า ลดบุหรี่ได้จำนวน 10 คน เลิกบุหรี่ได้จำนวน 3 คน

“กิจกรรมกลุ่มเพื่อนรักเพื่อนดูแลไต ดูแลกัน คนเบาหวานความดันบ้านร่มโพธิ์ทอง” มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 52 คน พบว่ามีภาวะแทรกซ้อนทางไตลดลงจากจำนวน 15 คน เป็น 12 คน มีภาวะแทรกซ้อนทางเท้าลดลงจากจำนวน 5 คน เป็น 2 คน มีภาวะแทรกซ้อนทางตาเท่าเดิมจำนวน 2 คน

ปัจจัยความสำเร็จ

  1. ชุมชนตระหนักถึงปัญหาร่วมกันวางแผนแก้ปัญหา ผู้นำชุมชน/ชุมชนร่วมกันแก้ปัญหาได้ดี
  2. การทำงานเป็นทีมของ อสม. ที่อุทิศตนทำงานอย่างเต็มความสามารถ มีความเสียสละ กล้าหาญ อดทนทำเพื่อผลประโยชน์เพื่อส่วนรวม
  3. การมีภาคีเครือข่าย ผู้นำชุมชน ชุมชน โรงเรียน ผู้นำศาสนา เจ้าหน้าที่สาธารณสุข องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นเพื่อแก้ปัญหาของชุมชนด้วยความเสียสละและมีแบบแผน
  4. มีสถานที่ที่เป็นศูนย์กลางในการดำเนินงานด้านสุขภาพ เป็นสถานที่อบรมให้ความรู้ การทำกิจกรรมพบปะพูดคุย และมีการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง

โอกาสพัฒนา

  1. ขยายผลไปใช้ในหมู่บ้านเขตรับผิดชอบ ตำบลนางัว 10 หมู่บ้าน
  2. ขยายผลไปใช้ใน รพ.สต. ทั้ง 8 แห่ง ในเขตอำเภอบ้านแพง

ข้อจำกัด/อุปสรรค

  1. การดำเนินงานยังไม่ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย เนื่องจากกำลังคน อสม. ไม่เพียงพอต่อการดูแลทุกหลังคาเรือน
  2. การดำเนินงานยังไม่ครอบคลุมทุกมิติ เนื่องจากยังขาดความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายในการดำเนินงาน
  3. การดำเนินงานยังไม่ต่อเนื่อง เนื่องจากยังขาดความตระหนักของประชาชนในการดูแลสุขภาพ
  4. ยังขาดแคลนงบประมาณในการดำเนินงาน

การนำไปใช้ประโยชน์

  1. สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการป้องกันควบคุมโรคไม่ติดต่อในชุมชนอื่นได้
  2. สามารถนำไปเป็นต้นแบบในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน
  3. สามารถนำไปเป็นแนวทางในการพัฒนาศักยภาพของ อสม. ในการดูแลสุขภาพของประชาชน
  4. สามารถนำไปเป็นข้อมูลในการวางแผนและกำหนดนโยบายด้านสาธารณสุข

การถ่ายทอด/ขยายผล

  1. การนำเสนอผลงานในการประชุมวิชาการ/การประกวด
  2. การจัดทำสื่อเผยแพร่ความรู้ให้กับ อสม. และประชาชน
  3. การจัดอบรมให้ความรู้แก่ อสม. และประชาชน
  4. การสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ

บทเรียนที่ได้รับ

  1. การทำงานเป็นทีมและการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนเป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินงาน
  2. การสร้างความตระหนักและความเข้าใจให้กับประชาชนเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อ
  3. การใช้ข้อมูลและเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการดำเนินงานช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  4. การติดตามและประเมินผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญในการปรับปรุงและพัฒนางานให้ดียิ่งขึ้น

ข้อคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ

  1. ควรมีการสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินงานให้เพียงพอ
  2. ควรมีการฝึกอบรม อสม. เพิ่มเติมเพื่อให้มีความรู้ความสามารถในการดูแลสุขภาพของประชาชนอย่างครอบคลุม
  3. ควรมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคไม่ติดต่อและวิธีการป้องกันอย่างถูกต้อง
  4. ควรมีการสร้างความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายต่างๆ เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

นวัตกรรม ล่าสุด

นวัตกรรม “ชุมชนน่าอยู่ คนสุขภาพดี ด้วยวิถีเทศบาล 3”
อสม.
นฤมล
สมหวัง
สาขาที่ประกวด
สาขาการส่งเสริมสุขภาพ

จังหวัด 

ยโสธร
อสม.ดีเด่นระดับ ภาค
ปฏิทินเตือนใจกินยาครบ
อสม.
อนงค์รักษ์
บุญส่ง
สาขาที่ประกวด
สาขาการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคติดต่อ

จังหวัด 

พังงา
อสม.ดีเด่นระดับ ชาติ
“ชุมชนน่าอยู่ คนสุขภาพดี ด้วยวิถีเทศบาล 3”
อสม.
นฤมล
สมหวัง
สาขาที่ประกวด
สาขาการส่งเสริมสุขภาพ

จังหวัด 

ยโสธร
อสม.ดีเด่นระดับ ภาค
หนองนาคำ โมเดล
นาง
บัวลำพอง
โสมะโสก
สาขาที่ประกวด
สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ชุมชน

จังหวัด 

ขอนแก่น
อสม.ดีเด่นระดับ เขต
กลุ่ม M HUG วัคซีนใจ
นาย
พรหมพร
พิมสอน
สาขาที่ประกวด
สาขาการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ในชุมชน

จังหวัด 

มหาสารคาม
อสม.ดีเด่นระดับ ภาค