- ชื่อนวัตกรรม “Health at Home”
ประเภทนวัตกรรม (จำแนกตามเป้าหมาย)
🗹 นวัตกรรมการบริการ (service innovation)
สาขาที่ประกวด สาขาการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคไม่ติดต่อ
จังหวัด เพชรบุรี
อสม.ดีเด่นระดับ ภาค - ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อ นางสาวฐิติรัตน์ ภักษา
ที่อยู่ บ้านเลขที่ ๙๒/๒ หมู่ที่ ๕ ตำบลไร่ใหม่พัฒนา อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี
อาชีพ พนักงานบริษัท
สถานภาพ สมรส
ระดับการศึกษา ปริญญาตรี
ระยะเวลาเป็น อสม. 12 ปี - ที่มาและความสำคัญของการสร้างนวัตกรรม
สิ่งแวดล้อมและสังคมผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน ต้องได้รับการรักษาและดูแลสุขภาพ
ตนเองอย่างถูกต้องเพื่อไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงขึ้น กลุ่มเสี่ยงต้องได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพไม่ให้เกิดเป็นผู้ป่วยรายใหม่จึงนับว่าเป็นโรคและภัยสุขภาพที่เป็นปัญหาสำคัญอย่างยิ่งที่ต้องรีบดำเนินการแก้ไขป้องกันอาสาสมัครสาธารณสุขประจ าหมู่บ้าน หมู่ ๕ บ้านไร่ดง ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญดังกล่าวจึงได้จัดทำ นวัตกรรมHealth at Home บริการด้วยใจห่วงใยถึงบ้าน ขึ้น เพื่อให้กลุ่มเสี่ยงและกลุ่มป่วย มีความรู้ความเข้าใจสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตามหลัก ๓อ๒ส กลุ่มเสี่ยงสามารถควบคุมระดับน้ำตาลและควบคุมระดับความดันโลหิตได้ในเกณฑ์ปกติเปลี่ยนกลับมาเป็นกลุ่มปกติได้ลดการเกิดผู้ป่วยรายใหม่โรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน กลุ่มป่วยสามารถควบคุมระดับน้ำตาลและควบคุมระดับความดันโลหิตได้ดีขึ้น ลดการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง ทาง ตา ไตเท้า หัวใจ สมองและหลอดเลือด - วัตถุประสงค์
- เพื่อให้กลุ่มเสี่ยงและกลุ่มป่วย มีความรู้ความเข้าใจสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตามหลัก 3อ 2ส
- เพื่อให้กลุ่มเสี่ยงสามารถควบคุมระดับน้ำตาลและควบคุมระดับความดันโลหิตได้ในเกณฑ์ปกติเปลี่ยน
กลับมาเป็นกลุ่มปกติได้ ลดการเกิดผู้ป่วยรายใหม่ - เพื่อให้กลุ่มป่วยสามารถควบคุมระดับน้ำตาลและควบคุมระดับความดันโลหิตได้ดีขึ้น ลดการเกิด
ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง ทาง ตา ไต เท้า หัวใจ สมองและหลอดเลือด
- ขั้นตอนการดำเนินงาน
การดำเนินงานแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้- กลุ่มเสี่ยง
อสม. ให้บริการดูแลสุขภาพ ติดตามการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม 3อ 2ส เจาะน้ำตาลปลายนิ้ว ตรวจวัด
ความดันโลหิต รวมทั้งสอนให้กลุ่มเสี่ยงตรวจวัดความดันโลหิตด้วยตนเอง แจ้งข้อมูลผ่านกลุ่มไลน์ให้เจ้าหน้าที่รพ.สต.ทราบ เพื่อร่วมกันวิเคราะห์ผล โดยด าเนินงานดังต่อไปนี้
1.1 กลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง - ระดับความดันโลหิต 120/80 – 140/90 mmHg สอนวิธีการวัดความดันโลหิตและให้กลุ่ม
เสี่ยงตรวจวัดความดันโลหิตด้วยตนเองที่บ้านเป็นเวลา 7 วัน (Home BP) - ระดับความดันโลหิตมากกว่า 140/90 mmHg ส่งพบเจ้าหน้าที่ รพ.สต.
1.2 กลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน - ระดับน้ำตาล 100 – 125 mg/dl บริการเจาะเลือดปลายนิ้ว เดือนละ 1 ครั้ง
- ระดับน้ำตาลมากกว่า 126 mg/dl ส่งพบเจ้าหน้าที่ รพ.สต.
- กลุ่มป่วย
อสม. คอยดูแลสุขภาพ ติดตาม และเข้าไปตรวจวัดความดันโลหิต เจาะน้ำตาลปลายนิ้ว ผู้ป่วยที่ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลและความดันโลหิตได้ตามที่เจ้าหน้าที่ รพ.สต.ไร่ใหม่พัฒนา แจ้งมาในไลน์กลุ่ม รวมทั้งคอยกระตุ้นเตือนให้ผู้ป่วยทุกคนพบแพทย์ตามนัด กลุ่มผู้ป่วยแบ่งดังนี้
2.1 กลุ่มสีเขียว กลุ่มผู้ป่วยทั่วไปที่สามารถเดินทางไปพบแพทย์ตามนัดได้เอง อสม.คอยกระตุ้นเตือนให้พบ
แพทย์ตามนัด
2.2 กลุ่มสีแดง ผู้ป่วยติดบ้าน ติดเตียง กลุ่มเปราะบาง แบ่งได้เป็นกลุ่มสีแดงที่มีอาการปกติผู้ป่วยควบคุม
ระดับความดันโลหิตและระดับน้ำตาลได้ดี เจ้าหน้าที่จะดำเนินการจัดยาและมอบให้อสม.ส่งยาให้ถึงบ้าน โดยผู้ป่วยไม่ต้องเดินทางมารับยาที่สถานบริการด้วยตนเอง ส่วนกลุ่มสีแดงที่มีอาการผิดปกติ เจ้าหน้าที่ รพ.สต.และ อสม.ติดตามเยี่ยมบ้าน และส่งต่อหากเกินความสามารถของเจ้าหน้าที่ รพ.สต.
- กลุ่มเสี่ยง
- ผลการดำเนินงาน/ประโยชน์ที่ได้รับ
- กลุ่มเสี่ยง
1.1 กลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานที่มีระดับน้ำตาล 100 – 125 mg/dl จำนวน 14 คน ได้รับการปรับเปลี่ยน
พฤติกรรมสุขภาพและเจาะเลือดซ้ำ พบว่า - มีระดับน้ำตาลน้อยกว่า 100 mg/dl จำนวน 5 คน
- มีระดับน้ำตาล 100 – 125 mg/dl จำนวน 9 คน
- ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่
1.2 กลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง ความดันโลหิต 120/80 – 140/90 mmHg จำนวน 18 คนตรวจวัด
ความดันโลหิตที่บ้าน จำนวน ๗ วัน (Home BP) คิดค่าเฉลี่ยพบว่า - มีระดับความดันโลหิตน้อยกว่า 120/80 mmHg จำนวน 6 คน
- มีระดับความดันโลหิต 120/80 – 140/90 mmHg จำนวน 12 คน
- ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่
- กลุ่มป่วย
2.1 กลุ่มผู้ป่วยสีเขียว จำนวน 45 คน ได้รับการดูแลและติดตามให้ไปพบแพทย์ตามนัดและรับการตรวจหา
ภาวะแทรกซ้อนครบทุกคน ไม่พบภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง
2.2 กลุ่มผู้ป่วยสีแดง (ติดบ้าน ติดเตียง เปราะบาง) จำนวน 5 คน ได้รับการดูแลและมอบยาให้ที่บ้าน
จำนวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 100 ไม่พบภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง - ความพึงพอใจของผู้รับบริการหลังการใช้นวัตกรรม ร้อยละ 94.80
- กลุ่มเสี่ยง
- ปัจจัยความสำเร็จ
๑. ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ รพ.สต.เห็นความสำคัญของแต่ละปัญหา
๒. ภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอชนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
๓. อสม.ทุกคนทำงานเป็นทีม มีความรับผิดชอบและมีเป้าหมายเดียวกัน
๔. มีการประสานงานที่ดี
๕. มีการประชาสัมพันธ์และการสื่อสารที่ดี
๖. ประชาชนในหมู่บ้านให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี - โอกาสพัฒนา
ดำเนินงานอย่างต่อเนื่องด้วยพลังของภาคีเครือข่ายและความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง การที่ประชาชนในหมู่บ้านให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีจะช่วยให้เกิดการดูแลสุขภาพของตนเองและเกิดความยั่งยื่นในการดำเนินงาน